https://drivemasterpage.blogspot.com/

ทดลองขับ MG ZS EV รถไฟฟ้าสุดฮอตแห่งยุค ในงบ 1.2 ล้าน น่าใช้จริงไหม !!!

         MG ZS EV ตัวเป็นๆ ก็ดูมีการเก็บรายละเอียดชิ้นส่วนและการประกอบที่ดีกว่า MG ZS ปกติไม่น้อย ภายในห้องเครื่องที่เป็นที่อยู่ของ motor กับ Generator ก็มีการติดตั้งและเดินสายเรียบร้อย เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์ทำให้ห้องเครื่องดูโล่งไปเยอะมาก มีที่ว่างหลังชุดไฟตัดหมอกเยอะมาก และการติดตั้ง มอเตอร์ที่ตำแหน่งต่ำ และแบตเตอรรี่วางใต้ท้อง ทำให้รถน่าจะมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำดีกว่าตัวปกติ แต่ก็มีข้อเสียเรื่องแบตเตอร์รี่ที่อยู่ต่ำกว่าตัวรถ ทำให้มีโอกาสกระแทกเนินตามหมุู่บ้านเสียหายได้แน่ๆ
🚗ส่วนการขับขี่
-อัตราเร่งในโหมด sport ก็มีอัตราเร่งที่ดี แต่น้อยกว่าทีแอดมินคาดคิด อารมณ์พอๆกับรถเครื่อง 2000 ใน C segment แต่แรงดึงกว่า 1,800 แน่นอน แรงกว่า ZS ตัวปกติแบบคนล่ะเรื่อง
-เบรคจะเบาเท้านิดนึง แต่หนึบใช้ได้ ต้องลองที่ความเร็วสูงๆอีกที แต่คนที่เท้าหนัก เหยียบเบรคแรงๆ หัวทิ่มแน่นอน
-พวงมาลัยโหมด ECO ตอนจอดนิ่งๆ เบามากๆ เหมือนพวงมาลัยเล่นเกมส์แต่พอขับก็หนักขึ้นนิดนึง ในโหมด sport ที่พวงมาลัยหนักสุด ก็ยังแอบเบานิดๆนะ
-ในโหมด KERS ระดับ 3 หรือมีการหน่วงความเร็วเวลาถอดคันเร่งเยอะสุด เพื่อปั่นไฟเข้าแบตเตอร์รี่ จะรู้สึกเหมือน Engine brake แบบแรงๆ หรือมีการหน่วงเอง แทบไม่ต้องเบรค ถ้าขับชินๆ แอดมินว่าน่าจะเวิร์คเพราะช่วยปั่นไฟกลับชดเชยได้เยอะ ทำให้วิ่งได้ไกลมากขึ้น
➡️รีวิวคร่าวๆ เนื่องจากเป็นลองขับที่สั้นๆมาก จึงจับความรู้สึกอะไรได้ไม่เยอะ
ปล.ใต้ภาพมีรายละเอียดนะครับ

มุมมองมุมนี้ MG ZS ออกแบบได้สวยงามใช้ได้
ล้อลายใหม่สำหรับ MG ZS EV แต่ลายก็คล้ายๆ Civic HB แต่มีขีดถี่กว่า
 ยกเครื่องยนต์ออกไป เอามอเตอร์และชุดควบคุมมาวางแทน แถมวางตำแหน่งต่ำลงเยอะ น่าจะทำให้ CG ต่ำลงเยอะ ช่วยให้รถทรงตัวดีขึ้น
 ด้านซ้ายกล่องเหลี่ยมๆ คือกล่องควบคุม โดยมีสายไฟสีส้ม เป็นสายไฟที่มีกระแสไฟฟ้าแรงดันสูง


 งานเชื่อมต่อตัวถังบริเวณซุ้มล้อดูเรียบร้อยสวยงาม
 อุปกรณ์ต่างๆหายไปเยอะ ทำให้มีพื้นที่ว่างในห้องเครื่องเยอะ ในรูปคือหลังไฟหน้าด้านซ้าย ทีว่างเหลือเฟือ


 ชุดอุปกรณ์ใต้ถาดท้ายรถ มีชุดปะยาง และก็ชุดสายชาร์จแบบธรรมดา ชาร์จเต็มก็ประมาณ 15 ชั่วโมง ใช้เวลานานไปนิดนึง มันเกินเวลานอนช่วงกลางคืน ถ้าจะใช้จริงๆ คงต้องติด Wall Charge แบบที่แถมให้ 1,000 คันแรก
 มีหลักคา พาโนรามิครูฟ บานใหญ่มาให้เรียบร้อย
 กระจังหน้ายกขึ้นเพื่อเสียบสายชาร์จ แต่ยกบ่อยๆไม่รู้จะทนไหม ค่อยข้างไม่แข็งแรงมาก

 รูปตัวอย่างการเปิดช่องชาร์จ
 ช่องชาร์จ ชุดบนเป็นชาร์จแบบ Wall Charge ใช้เวลาเร็วสุด 7 ชั่วโมง ส่วน 2 รูใหญ่ด้านล่างเป็นช่องแบบ quick charge ภายใน 30 นาที ชาร์จได้ 80% แต่ต้องชาร์จกับสถานีขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งตอนนี้หาได้ยาก
 เนื่องจาก MG ZS ไม่ได้ออกแบบมาเป็น EV แต่กำเนิด ทำให้ต้องเอาแบตเตอร์รี่มาไว้ใต้ท้องรถ ซึ่งจะทำให้แบตอยู่ต่ำกว่าคานใต้ท้องรถ ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้อง 161 มม. ข้อมูลจากโบวชัวร์

 รูปนี้ดูกันชัดๆ ว่าแบตมันต่ำกว่าขอบใต้ประตูรถด้านข้างประมาณ 30-40 มม. ได้ ทำให้เสี่ยงกระแทกเนินชลอความเร็วตามหมู่บ้าน ถ้ากระแทกไป มีโอกาสที่ทำให้แบตเสียได้

 ชุดควบคุมเกียร์แบบปุ่มหมด อยู่ใต้แผ่นกระดาษที่ปิดไว้ หมุนตามเข็มไปทางขวาเป็นเกียร์ D หมุนทวนเข็มเป็นเกียร์ R  กดปุ่มตรงกลางเป็นเกียร์ P 
ส่วนปุ่ม MODE เป็นปุ่มปรับโหมดการขับขี่ Eco-Normal-Sport
ปุ่ม KERS เป็นปุ่มปรับอัตราการหน่วงของ Generator เพื่อชาร์จไฟเข้าแบตเตอร์รี่เวลาถอนคันเร่ง อาการคล้ายๆกับ Engine Brake

ตอนแรกแอดมินคิดว่า MG ZS EV เบากว่า MG ZS 1.5 เพราะไม่มีเครื่องยนต์ แต่จากข้อมูลของเซล์ เหมือนจะหนักขึ้นประมาณ 250 กิโลกรัม (ต้องคอนเฟิร์มอีกที เพราะในโบรชัวร์ EV ไม่ยอมบอกน้ำหนักซะงั้น)

สนใจติดตาม Drive Master Face Book Page ได้ทางลิ้ง : https://www.facebook.com/DriveMasterPage/?ref=bookmarks ทาง Drive Master ขอสงวนลิขสิทธ์ข้อมูลและเนื้อหา ห้ามนำเนื้อหาหรือส่วนใดส่วนหนึ่งส่วนใดในเนื้อหาไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก Drive Master ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น