https://drivemasterpage.blogspot.com/

พาชมและทดลองขับ New Mazda 3 กันก่อนเปิดตัวบ่ายนี้ ตามสไตล์ drive master

                      ก่อนที่ New Mazda 3 จะเปิดตัวในตอน บ่าย วันที่ 18 กันยายน 2019 นั้น แอดมินได้แวะไปชมและทดลองขับกันก่อนเลยในช่วงเช้า รายละเอียดรูปอาจจะถ่ายไม่เยอะมาก เพราะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เรามาชมกันครับ และช่วงท้ายแอดมินจะเล่าความรู้สึกหลังได้ลองขับ
                      รุ่นใหม่จะแบ่งเป็น 3 เกรดย่อย ทั้ง 2 ตัวถัง ซีดาน และ 5 ประตู รวมทั้งหมด 6 เกรด ตัวท๊อบ SP ราคาน่าจะราว 1.1 ล้าน บวก-ลบ นะครับ ซึ่งก็คือรถคันที่ถ่ายรูปมา
มาเริ่มจากด้านหน้าลายของกระจังจะไม่เหมือนกันระหว่างซีดานและ 5 ประตู ซึ่งแอดมินชอบแบบซีดานมากกว่าดูหรูกว่า ส่วนตัว 5 ประตูจะเป็นเหมือนในรูปลักษณะเป็นตาข่าย พร้อมขอบกระจังที่เป็นสีดำเงา (ตัวซีดานเป็นโครเมียมบริเวณขอบ) ไฟหน้าเป็น Projector LED ไม่มีไฟตัดหมอก แม้กระทั้งตัวท๊อป มีเซ็นเซอร์ด้านหน้า 4 จุดมาให้ครบๆ
ด้านท้ายมุมเอียงนี้คือมุมเด็ดของตัว 5 ประตู ซึ่งแอดมินไม่ค่อยชอบตอนดูในรูป พอเห็นตัวจริงก็เป็นเหมือนในรูปเลย หนาเหมือนเดิม 555 ชายล่างตัว 5 ประตูเป็นดำเงา ซึ่งน่าจะดูแลยาก และเป็นรอยแมวข่วนได้ง่ายมากๆ ตัวซีดานเป็นพลาสติคสีดำธรรมดา
มุมมองท้ายตรง รถก็ดูแน่นและอวบอิ่มมากๆ ท่อไอเสียคู่ มีเซ็นเซอร์ถอยหลังมาให้ 6 จุด รวมหน้าหลัง 10 จุด กล้องมองหลัง เปิดฝากระโปรงท้ายกดที่ช่องด้านใต้โลโก้  ในตัว SP

อีกมุมมอง ที่จะเห็นเสา C หนา ชัดเจนมาก มีสปอยเลอร์ด้านหลังเป็นสีดำเงามาให้เรียบร้อย ตัวซีดานเป็นสปอยเลอร์แบบหางเป็ด Duck tail  เสาอากาศฝั่งในกระจกหลัง ไม่มีเสาบนหลังคา
ไฟหน้าเป็นแบบ Projector LED พร้อม DRL  และไฟเลี้ยวในโคมเดียวกัน

กระจังหน้าแบบตาข่าย และมีโลโก้เคลือบพลาสติคใสแบบเรียบ ด้านหลังมีเรดาร์  ด้านบนมีกล้องหน้าสำหรับ กล้องรอบคันซึ่งแสดงผลที่จอชัดมากๆ ชัดพอๆกับรถ Benz รุ่นล่าสุด
รูปนี้ถ่ายให้เห็นคานกันชนด้านหน้า ที่มีพลาสติคปิดไว้ เพราะช่องกระจังใหญ่มาก เห็นด้านในกระจังหมดทุกอย่าง
รูปนี้ถ่ายให้่เห็นว่า แตร เป็นแบบ ทรัมเป็ท ที่เสียงเพราะดังแบบรถยุโรปเค้าใช้กัน ไม่ใช้แตรเด็กน้อยแบบ Altis ใหม่ หรือ CHR คนที่ซื้อไป ก็ไม่ต้องวุ่นวายไปเปลี่ยนนะครับ
กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวแบบ LED แบบ light guide ยาวๆสวยๆ และมีเลนส์ที่ปลายเพื่อส่องแสงด้านข้าง (สวยงามกว่าไฟเลี้ยวของ Altis ใหม่ พร้อมกล้องใต้กระจก สำหรับถ่ายมุมมองด้านข้างรถ เพื่อแสดงในกล้องรอบคัน 360 องศา ที่แสดงผลได้ชัดเจนกว่า Accord อีกนะครับ

 ไฟท้ายเป็นแบบทรงกลม 2 วง เป็นแบบ Full LED ไฟเลี้ยวเป็น LED 4 ดวงในวงด้านนอก ไฟถอยวงด้านใน
ล้อแม็กซ์เป็นขนาด 17 นิ้ว ขนาดเท่ากันและลายเดียวกันในเกรด SP และสีไม่เหมือนกัน ตัวซีดานจะออกสีเงิน ส่วน 5 ประตูจะออกสีเทาแบบในรูป ลายคล้ายๆของตัวเก่า ในรูปจะสังเกตุเห็นเซ็นเซอร์หลัง อ้อมมาด้านข้าง ทำให้ด้านหลังมีเซ็นเซอร์รวม 6 จุด เซ็นเซอร์ด้านหลังที่กันชนนี้ สำหรับเตือนมุมอับด้านข้างที่กระจกมองข้าง และระบบเตือนรถมาด้านข้างขณะถอยหลัง
ยาง Yokohama Advane DB decibel ขนาด 215/45 R18  เน้นนุ่มเงียบ เพื่อให้เสียงเข้าห้องโดยสารน้อยๆ  หรือ ดีกว่าตัวเก่า
 หน้าปัทม์เป็นวงกลม 3 วง พร้อมแสดงผลอื่นๆระหว่างวงมาให้ครบครัน ดูเรียบง่าย ฟังค์ชั่นครบ และดูแพงกว่า Altis ใหม่แบบรถคนละยุค  ให้สังเกตุกรอบพลาสติคใต้หน้าปัทม์ยังประกอบไม่ค่อยเรียบร้อยช่องไม่เท่ากัน
ชุดควบคุมคอนโซลกลาง มีเกียร์ที่สามารถเข้า M +/- ได้  ด้านซ้ายเป็นปุ่มควบคุมวิทยุ ตรงกลางเป็นปุ่มควบคุมจอกลาง ที่ใช้ระบบสัมผัสไม่ได้ ทั้งๆที่ตัวเก่า สัมผัสได้ น่าเสียดายจริงๆที่แอบลดต้นทุนในจุดนี้ ปุ่มด้านขวามเป็นเบรคมือไฟฟ้าและ Auto Hold สำหรับช่วยเบรคเวลารถติดในเมือง ปุ่มด้านขวาข้างเกียร์เป็นปุ่มปรับโหมด Sport หรือ Off เป็น Normal ขับจริงๆ คันเร่งตอบสนองต่างนิดหน่อย
 คอนโซลหน้าฝั่งซ้ายซ้ายเป็นช่องแอร์แบบสี่เหลี่ยมดูคล้ายของ Audi A4 ตรงกลางเป็นปุ่มปรับระบบแอร์ แบบ Dual zone (Altis เป็นแบบ 1 Zone แต่มีฟอกอากาศ Nanoe ) ด้านขวามเป็นปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์
 จุดนี้เป็นจุดที่ดูพรีเมียมที่สุดในรถ สำหรับแอดมิน เพราะกรอบลำโพงเป็นสแตนเลสคล้ายของ BMW Series 3 ใหม่เลย ในกรอบมีปุ่มล็อคปลดล็อครถ ถัดลงมาเป็นปุ่มเปิดปิดหน้าต่าง และที่สำคัญปุ่มปรับกระจกมองข้างไฮโซและดูดีมาก ในความคิดของแอดมิน ดีกว่ารถยุโรปบางรุ่นด้วยซ้ำ เพราะเวลาเลือกปรับด้านซ้ายหรือขวาเป็นแบบกดปุ่มแยก ไม่ใช้แบบโยกไปมา
ปุ่มใต้พวงมาลัยด้านขวาของ Mazda 3 นี้มีปุ่มเยอะจริงๆ (ของ Altis มีปุ่มธรรมดาๆ มาให้ 3 ปุ่ม) เริ่มจากด้านซ้าย i-stop เปิดปิดระบบดับเครื่องเองเวลารถหยุด>>ปุ่มป้องกันลื่นไถลหรือควบคุมการทรงตัว>>เปิ ดปิดเซ็นเซอร์รอบคัน ทั้ง 10 จุด>> ปุ่มกล้องรอบคัน 360 องศา กดวนไปเรื่อยๆ เพื่อเปลี่ยนมุมมอง>> ปุ่มสดท้ายทางขวา แอดมินก็ไม่ทราบว่าปุ่มอะไรกดแล้วไม่ขึ้น แต่เดาว่าน่าจะเป็นระบบ Safety
ด้านล่างเป็นปุ่มบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งคนขับ 2 ตำแหน่ง (Altis ไม่มีนะ) ปุ่มและระบบเยอะจริงๆ แต่การใช้งานกดปุ่มพวงนี้ค่อนข้างลำบาก พวงมาลัยบังให้มองไม่เห็น ควรจะกดตอนรถหยุดนิ่งน่าจะเหมาะสมกว่านะครับ

พวงมาลัยพร้อมปุ่มควบคุมระบบต่างๆ ขนาดวงเหมือนใหญ่กว่าเดิม และเส้นรอบวงก้านดูเล็ก แอดมินหมุนแล้วไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ของ Altis จับถนัดมือกว่า
ด้านซ้ายของพวงมาลัยเป็นปุ่มปรับเครื่องเสียง รับ-วางสายโทรศัพท์ และ Info ปรับหน้าจอในหน้าปัทม์
ด้านขวาพวงมาลัยเป็นปุ่มปรับระบบ Safety พิเศษในตัวท๊อป ทั้งตั้งระยะห่างคันนหน้า เซ็๋ทระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ และระบบช่วยอยู่ในเลนส์
 พื้นที่ด้านหลัง Legroom ตัว 5 ประตูกว้างกว่าตัวเดิมนิดนึง แต่ตัวซีดานกว้างกว่าตัว 5 ประตูเยอะเหมือนกัน และขนาดพื้นที่ใกล้เคียง Altis ใหม่ (Altis กว้างกว่านิดเดียว)
ด้านหลังมีช่องแอร์หลังมาให้นะครับ แต่ปรับอุณหภูมิและแรงลมไม่ได้

การทดลองขับ (หลักๆจะเทียบกับ New Altis 1.8 GR sport )
            ฟิลลิ่งแรกที่สัมผัสได้คือพวงมาลัยเบากว่าตัวเก่าชัดเจน แต่หนักว่า Altis ใหม่ คันเร่งค่อนข้างแข็ง เมื่อเทียบกับ Altis 1.8GR ทำให้ดูเหมือนกว่า Altis เร่งทันเท้ากว่า แต่ในความจริง Mazda 3 2.0 เร่งแรงกว่า Altis 1.8GR แบบรู้สึกได้เลย วงพวงมาลัยวงใหญ่ เวลาเลี้ยวดูเกะกะไม่ค่อยถนัดของ Altis หมุนคล่องกว่า
            ช่างล่าง Altis นุ่มกว่าชัดเจน ของ Mazda จะรู้สึกแข็งๆและแน่น แต่นุ่มกว่าตัวเก่า เวลาเข้าโค้งแรงๆที่ความเร็วสูงเหมือนจะมีอาการโยนๆดิ้นๆที่ด้านท้าย ไม่เกาะเหมือนตัวเก่า อาจจะเพราะยางแก้มนิ่มทำให้มีอาการโยนนิดๆก็เป็นได้ เวลาขับเร็วๆจะมีความรู้สึกว่ารถมันหนักๆกว่า Altis โดยเฉพาะ GR sport ที่รู้สึกเบา ลอยๆ แต่ Hybrid High จะรู้สึกเบากว่า Mazda 3 นิดนึง คงเพราะมีแบตไฮบริดมาถ่วง ทำให้ขับเร็วๆ Mazda 3 รู้สึกมั่นใจและมั่นคงกว่า New Altis แต่เวลาเข้าโค้ง แอดมินยังรู้สึกว่า Altis ดูมั่นคงและนิ่งกว่านิดๆ ท้ายไม่ดิ้นแบบ Mazda 3
           อัตราเร่ง จะเร่งออกตัวไปแบบนุ่มๆ ไม่หวือหวา แม้จะกดมิดแล้วก็ตาม แต่แรงดึงมากกว่า Altis 1.8GR และ Hybrid High แน่นอน แต่ยังเทียบ Civic 1.5 turbo ไม่ได้เลย 
           ภาพรวมการขับขี่จะดูนุ่มละมุนกว่าตัวเก่า ความละมุนพอๆกันระหว่า Mazda 3 และ Toyota Altis แต่ก็ยังรู้สึกช่วงล่างทางตรงแน่นๆ แข็งๆกว่า Altis 1.8 GR ถือเป็นการพัฒนาช่วงล่างให้ดีขึ้นกว่าเดิม (แตแอดมินแอบชอบช่วงล่างแบบเก่ามากกว่า และดูไม่ค่อยต่างจาก Altis เหมือนตัวก่อนๆ) แต่ก็ยังคงเทียบกับรถยุโรปแบบ BMW ยังไม่ได้ซะทีเดียว ยังรู้สึกห่างไกลอยู่ และยังเทียบกับ Accord Camry ก็ยังไม่ได้นะครับ ใครขับ Mazda แล้วจะมั่นใจว่าขับขี่ดีเทียบเท่ารถยุโรปแอดมินกว่ายังไม่ถึงขนาดนั้นนะครับ แม้แต่ช่วงล่างของ Subaru XV ก็ยังรู้สึกขับแล้วมั่นใจกว่า Mazda 3 และ Altis อยู่ดีนะครับ อันนี้พูดตรงๆไม่ได้อวยนะคร้าบบบ
          สรุปของสรุป ช่วงล่าง Mazda 3 ใหม่ดีขึ้น ละมุนขึ้น แต่แต่แต่ Altis มันดีกว่าเดิมเยอะ ทำให้รวมๆ แล้ว ช่วงล่างมันพอๆกันแล้ว ดีเด่นคนละอย่าง ดังนั้น Mazda ต้องหาจุดเด่นด้านอื่นๆมาขายละ อาจจะเป็นภายในที่หรูหรากว่า และราคาควรจะถูกกว่า Altis นะ เพราะต้นทุนเครื่อง 2.0 เบนซิลน่าจะถูกกว่า Hybrid และ 1.5 Turbo ของคู่แข่งเยอะเลย

ปล.ทาง Drive Master ขอขอบคุณ โชว์รูม มาสด้า กรุงเทพออโตโมบิล บางนา สำหรับรถและสถานที่ ถ้าคุณผู้อ่านสนใจรถมาสด้า ติดต่อได้ทาง 02-325-0421 หรือแวะไปดูรถคันจริงได้ที่โชว์รูมนะครับ



* สนใจติดตาม Drive Master Face Book Page ได้ทางลิ้ง : https://www.facebook.com/DriveMasterPage/?ref=bookmarks ** ทาง Drive Master ขอสงวนลิขสิทธ์ข้อมูลและเนื้อหา ห้ามนำเนื้อหาหรือส่วนใดส่วนหนึ่งส่วนใดในเนื้อหาไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก Drive Master *** ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น