https://drivemasterpage.blogspot.com/

พาชม Lexus UX น้องใหม่ ตัวเริ่มต้น SUV Cross over ในแบรนด์ Lexus เป็นรถที่เหมาะกับสภาพจราจรในกรุงเทพที่สุด!!! และเป็นรถที่ทำให้แอดมินทั้งเซอร์ไพร์สและเจ็บปวดไปพร้อมๆกัน


                    จากที่ Lexus Thailand ได้ทำการเปิดตัวน้องใหม่ของค่าย ในชื่อรุ่น UX เป็น SUV Cross-over ที่เล็กที่สุดของค่ายและทำราคาให้คนซื้อสามารถเข้าถึงแบรนด์ Lexus ได้ง่ายขึ้นนั้นเอง
มีด้วยกัน 3 เกรดย่อย ดังนี้
1. UX 250h Luxury เป็นเกรดเริ่มต้นราคา 2,490,000 บาท
2. UX 250h Grand Luxury เกรดกลาง ราคา 2,690,000 บาท
3. UX 250h F sport AWD เกรดท๊อป ราคา 3,620,000 บาท
เมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด ราคาก็จะมีช่วงกว้างตั้งแต่ตัวเริ่ม 2.49 ล้านบาท เพื่อแข่งกับ X1 20d, GLA 250, XC40 และตัวท๊อปที่ราคา 3.62 ล้านบาท โดดไปแข่งกับรุ่นพี่อย่าง X3 20d, GLC 250, XC60 T8 เป็นต้น
                  แอดมินได้ไปชมตัวจริงคันสีฟ้า ซึ่งเป็นรุ่น UX 250h Grand Luxury ราคา 2.69 ล้านบาท เป็นหลัก ดังนั้นรูปที่อธิบายด้านล่างจะเป็นรุ่นเกรดกลางเป็นหลักนะครับ และจะมีตัวท๊อปคันสีส้มเพิ่มแค่นิดหน่อย
  • ภายนอก

คันนี้เป็นตัว Grand Luxury ด้านหน้าจึงดูหรูหรา พร้อมมีความเฉี่ยวคมสปอร์ตที่ลงตัว

กระจังหน้าตัว Luxury จะเป็นลายเป็นก้อนทรงหกเหลี่ยมชี้เข้าหาโลโก้สีเทาเงา พร้อมโลโก้ Lexus สีฟ้า บ่งบอกความเป็น Hybrid ขอบกระจังด้านล่างจะปิดด้วยโครเมียมสีเงินเพิ่มความหรูหราแบบพอดี ไม่เยอะเกินไป
ไฟหน้าทรงเฉี่ยว มาพร้อมไฟ DRL ทรงเครื่องหมายถูกต้อง หรือ บางคนเรียกทรง Nike อันเป็นเอกลักษณ์ของ Lexus ยุคใหม่ ใต้ไฟหน้า เป็นช่องดักลมแนวตั้ง สีดำเงา Piano black ไล่ลงไปหาไฟตัดหมอกหน้าทรงกลมดวงเล็ก

 มาดูด้านท้ายแบบเต็ม ไฟท้ายที่มี Light guide ลากยาวตลอดแนวท้ายรถ มีไฟสว่างจริงเวลากลางคืน ถือว่าสวยงาม เพิ่มเอกลักษณ์ให้ด้านท้ายรถครับ  ด้านบนมีสปอยเลอร์หลักสีดำเงามาให้ในตัว ชายล่างกันชนเป็นพลาสติคสีดำ ไม่ได้พ่นสีทับ เพื่อให้ทนแรงขีดข่วน อันเป็นรูปแบบของ SUV พร้อมไฟสะท้อนแสง Reflector ที่ขอบทั้งสองด้าน

ไฟท้ายทรงแปลกตา ด้านนอกมีหางชี้ขึ้น เหมือนปลายปีกเครื่องบินที่มีปลายชี้ขึ้น ทรงอาจจะออกแบบเพื่อเรื่องรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะรุ่น รวมทั้งอาจมีเรื่องแอโรไดนามิคส์มาเสริมด้วย ไฟท้ายเป็นแบบ LED มี Light guide แนวนอนลากจากปีกข้างซ้ายไปจรดปีกไฟท้ายด้านขวา ลากยาวตลอดความกว้างของตัวรถ จัดเต็มมากสำหรับไฟท้าย
 ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า พร้อมระบบเตะเปิด เปิดได้สูงมาก ไม่มีปัญหาสำหรับคนตัวสูง พื้นที่เก็บของด้านท้ายมีขนาดกำลังดีเหมาะสมกับขนาดของตัวรถ
ฝากระโปรงท้ายเมื่อเปิดขึ้นมา จะประกอบด้วยไฟส่องทะเบียนท้ายรถ กล้องมองหลัง ปุ่มปรับระดับความสูงฝาท้าย (จุดนี้แปลกมาก แอดมินไม่เคยเจออยู่รวมในฝากระโปรงท้ายรถ) และปุ่มปิดล็อคฝาท้าย

 ล้อแม็กซ์ตัว Grand Luxury เป็นล้อทรง 5 ก้านสีเทาขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางขนาด 215/60R17
ซุ้มล้อมีขอบโป่งสีดำพลาสติคกันรอยขีดขวนสไตล์รถ SUV

กระจกมองข้าง three tone ด้านบนดำเงา แซมด้วยสีเงินโครเมียมเพิ่มความหรูคาดกลาง และด้านล่างเป็นสีตัวถังทรงค่อนข้างยื่นออกมานอกตัวถัง
ส่วนคันสีส้มเป็นรุ่นท๊อป F-sport AWD ขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมตบแต่งให้สปอร์ตมากกว่าตัวปกติ กระจังหน้าเป็นทรงตะแกรงถัก สวยงามมาก แต่คนล้างน่าจะปวดหัวน่าดู ขอบด้านล่างของกระจังเป็นแบบ Dark Chrome โครเมียมสีเทาดำ เพื่อความดุและสปอร์ตไปควบคู่กัน


ด้านข้างแบบชัดๆ จะเห็นโป่งซุ้มล้อทรงแปลกตาเพราะไม่เป็นทรงกลมตามล้อ แต่จะเป็นทรงตามเส้นสายของตัวรถแทน แปลกตาจากรถทั่วไปดี ล้อของตัว F-sport AWD จะเป็นล้อลาย 5 ก้านคู่สี Metalic gun ขนาด 18 นิ้ว

  • ภายใน
ภายในจะเป็นตัวชี้วัดว่าหรูหรา เนี๊ยบ ดูดี สมกับความเป็น Lexus ไหม?

จริงๆแล้ว ภายในมีหลายโทนสี แต่คันที่มาโชว์ตัว Grand Luxury เป็นสีดำ ทำให้ขาดความหรูหราไปนิดนึง

แผงประตูหน้า ออกแบบเรียบง่าย ด้านบนเป็นวัสดุบุนุ่มคล้ายหนัง แต่ไม่ใช้หนัง มีสัมผัสนุ่มในส่วนด้านบนและส่วนที่เท้าแขน มีช่องเก็บของใส่ขวดน้ำได้ 1 ขวด พร้อมของจุกจิกเล็กน้อย มาพร้อมกับลำโพงหน้า ไฟส่องเท้า
แต่แผงประตูหลัง ทำเอาผมเซอร์ไพรส์ที่เกือบจะลดต้นทุนเทียบเท่า CHR แล้ว เพราะเป็นพลาสติคแข็งเกือบทั้งบาน ยังดีที่มีส่วนกลางหุ้มหนังบุนุ่มกับส่วนที่เท้าแขนที่ศอกสัมผัสยังบุ่นุ่มมาให้บ้าง ไม่มีที่ใส่ของใดๆทั้งสิ้น

 คอนโซลหน้าออกแบบเป็น Layer ชั้นๆ แต่เนื่องจากไม่ค่อยมีทริมตบแต่งสีเงิน มีแต่สีดำ ทำให้รู้สึกดิบและขาดความหรูไปหน่อย ยังดีที่ยังมีนาฬิกาทรงกลมเพิ่มความหรูให้บ้าง (นี้ถ้าเอานาฬิกาดิจิตอลยุค 90 แบบ CHR มาใส่นี้ แอดมินโกรธเลยนะ)
หน้าจอแสดงผลตรงกลาง กรอบทำให้ดูเหมือนใหญ่ แต่จริงๆขนาดจอไม่เต็มพื้นที่ วัสดุส่วนบนจะบุนุ่มเดินตะเข็บได้จริง คล้าย CHR
ปุ่มปรับทิศทางลมที่ช่องแอร์เป็นทรงกลมให้เข้ากับปุ่มสตาร์ท ไม่งั้นจะกลมๆโดดๆไป

ใต้ช่องแอร์เป็นปุ่มปรับระบบแอร์เรียงกันเป็นตับทั้ง 9 ปุ่ม จะมองเห็นว่ากดเพื่ออะไร ก็ต้องสตาร์ทให้จอแสดงผลระบบปรับอากาศทำงานก่อน ถัดลงมาเป็นช่องใส่ CD และถัดลงมาเป็นปุ่มปรับระบบระบายความร้อนที่เบาะคู่หน้าทั้ง 2 ข้าง

ถัดมาด้านขวาของปุ่มปรับระบบระบายอากาศเบาะ เป็นปุ่มดึงสำหรับเบรคมือไฟฟ้า
พวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่น ทรงเรียบๆ ด้านซ้ายปรับหน้าจอกลาง ระบบเครื่องเสียงและโทรศัพท์ ด้านขวาเป็นปุ่มปรับระบบช่วยการขับขี่ต่างๆ ได้แก่
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC: Adaptive Cruise Control
- ระบบป้องกันก่อนการชน PCS: Pre-Collision System
- ระบบรักษาช่องทางการวิ่ง LKA: Lane Keeping Assist เป็นต้น

ปุ่มหมุนกลมๆ เหนือหน้าปัทม์ด้านซ้ายเป็นปุ่มปรับโหมดการขับขี่ 3 แบบ Eco-Normal-Sport
 ด้านซ้ายเพื่อปิดระบบการควบคุมการทรงตัว

 ด้านขวาของพวงมาลัยเป็นปุ่มปรับ Trip ของหน้าปัทม์ และปุ่มปรับความสว่างหน้าปัทม์
ถ้าสังเกตุ การออกแบบคอนโซลหน้าด้านขวาล่างสุดจะมีลักษณะปลายแหลมยื่นออกมาก จุดนี้แอดมินมองว่าเป็นจุดผิดพลาดอย่างร้ายแรง เพราะเวลาคนขับยกขาซ้ายโดยกวาดขาออกเพื่อจะออกจากรถ ทำให้หน้าแข้งหรือเข่าข้างซ้ายชนกับจุดนี้เข้าอย่างจัง อย่างที่แอดมินเจอจนหน้าแข้งเขียวช้ำแบบรุนแรงพร้อมแผลถลอกจากแรงกระแทกทะลุเนื้อผ้ากางเกงเข้ามาที่เนื้อกันเลยทีเดียว จะบอกว่าแอดมินเข้าหรือออกไม่ถูกท่าก็ไม่น่าใช้ เพราะแอดมินก็เข้าออกรถมาเป็นพันๆคัน ก็ไม่เคยเจอการชนแบบนี้ แต่คันนี้เข้าออก 2 ครั้ง หน้าแข้งชนทั้ง 2 ครั้ง ใครนึกภาพไม่ออกให้นึกถึงรถที่มีช่องเก็บเหรียญแบบเปิดได้ (ตัวอย่างช่องเก็บเหรียญของแคมรี่ตัวล่าสุดในรูปด้านล่าง) ลักษณะการชนก็คือเหมือนเปิดช่องใส่เหรียญแล้วลืมปิด แล้วหน้าแข้งจะชนเวลาลุกออกจากรถ เวลาชนมันจะเจ็บปวดรวดร้าวมาก ใครเคยชนจะเข้าใจดี แต่การชนหน้าแข้งใน UX มันจะเจ็บปวดมากกว่าเยอะเลย จุดนี้ทำเอาผมต้องนั่งจับหน้าแข้งตัวเองพร้อมความปวดรุนแรงนานประมาณสิบนาทีกันเลยที่เดียว แถมฝากรอยแผลรอยเขียวติดไปอีกหลายวัน




 ใครมองไม่ชัดมาดูมุมนี้  จะเป็นภาพว่าทำไมถึงชนหน้าแข้ง เพราะออกแบบให้โค้งและยื่นแหลมเข้าหาคนขับแบบนี้ไง ผมมองว่าออกแบบได้อันตรายมากๆ


คอนโซลกลางเป็นด้านบนเป็นที่วางแก้วน้ำ ถัดลงมาเป็น Touch pad  สำหรับสั่งการหน้าจอกลาง คันเกียร์อยู่ด้านขวา ใต้คันเกียร์เป็นปุ่ม EV mode และ brake hold
 ตรงในส่วนที่เท้ารองฝามือเพื่อใช้ touch pad จะมีปุ่มเมนูลัดของระบบเครื่องเสียง ซึ่งในการใช้งานคงต้องปรับความคุ้นเคยกันสักพัก ถึงจะใช้งานได้คล่อง
ที่ท้าวแขนตรงกลางหุ้มพลาสติคบุนุ่ม แต่ก็ออกแข็งๆ ที่เก็บของมีขนาดใหญ่ พร้อมช่องเสียบ USB

 เบาะหลัง มีพื้นที่วางขาเหลือพอประมาณ แอดมินมองว่าขนาดพอๆกับ CHR เบาะรองนั่งนุ่มกลางๆ ไม่นุ่มมากเหมือน Lexus ในรุ่นสูงๆ พื้นที่เหนือศรีษะเหลือไม่เยอะ พอๆกับ CHR เช่นกัน แต่ความโล่งโปร่งของหน้าต่าง ดีกว่า CHR แบบคนละโลก
มาดูกันชัดๆ กับพื้นที่วางขา ว่าเหลือขนาดไหน รวมทั้งความยาวและมุมของเบาะรองนั่ง แอดมินสูง 170 ซม.

ไฟส่องห้องโดยสารตรงกลางเป็น LED สีนวลตาดี
 หลังคอนโซลกลางมีช่องแอร์สำหรับเบาะหลัง ปรับความแรงพัดลมแยกไม่ได้ และมีช่อง USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ 2 ช่อง คนนั่งหลังไม่ต้องแย่งกัน

 ใครที่เคยปรามาส Civic FC ไว้ว่าเบาะหลังด้านข้างเป็นพลาสติคแข็งนั้น วันนี้มันกลับมาแล้วในรถราคา 2 ล้านกว่าอย่าง Lexus ด้วยนะครับ แข็งและโดนแขนมากกว่า Civic อีกนะครับ 
มาดูกันชัดๆ ว่าขอบของพนักพิงเบาะหลังเป็นพลาสติคแข็งล้วน สรุปคือ เบาะหลังคนนั่งจะได้รับความสบายนุ่มนวลจะต่างจากคนนั่งหน้าเยอะ ไม่ว่าจะเป็นขอบพนักพิงเบาะหลังและแผงประตูที่เป็นพลาสติคแข็ง คอนเซ็ปเดียวกับ CHR แต่ดีกว่านิดหน่อย แต่แอดมินว่าไม่ควรอยู่ในรถราคาเกิน 2 ล้านขึ้นไปแบบนี้

  • สมรรถณะและการขับขี่
               จากการได้ทดลองขับรถคันนี้เป็นอะไรที่เซอร์ไพร์สผมมาก ด้วยความที่ผมคิดว่ามันก็คงเหมือนหรือไม่ต่างจาก CHR นักเนื่องจากพื้นฐานในส่วนของ platform จาก TNGA เหมือนกัน แค่อาจจะเรียกชื่อต่างกัน แต่ปกติในระดับรถอย่าง Lexus ก็ต้องมีการดาม เชื่อม หรือ spot ตัวถังเพิ่มเติมเพื่อให้มีความแข็งแรงและแน่นหนากว่า CHR อยู่แล้วตามระดับราคารถ ผมขอบอกก่อนนะครับ ว่าคันที่ลองเป็น Grand Luxury ที่ล้อเป็นขนาด 17 นิ้วซึ่งก็ไม่ถือว่าเล็กไป กำลังพอดี สำหรับขับในเมืองที่ถนนไม่เรียบแบบกรุงเทพ แต่ด้วยซีรีย์ยาง 60 ที่หนา (215/60R17) ก็น่าจะทำให้ช่วงล่างย้วยๆแน่ๆ และ UX ยังเป็นรถกึ่ง SUV ดังนั้นการขับขี่จะต้องไม่เท่าไหร่แน่ๆ แต่พอได้ขับจริงผมถึงกับอึ้งไปเหมือนกัน
        - อัตราเร่ง ถือว่าสมตัวใช้ได้ ไม่เร็วมาก และไม่อืดแบบ CHR เนื่องจากเป็นเครื่อง 2000 ซีซี อัตราเร่งค่อนข้างติดเท้า กดเป็นมาใช้ได้ เนื่องจากเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีแรงบิดได้ทันที ไม่ต้องรอรอบแบบรถเทอร์โบ ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดๆ กับรถทั่วไป อัตราเร่งที่ได้น่าเหนือกว่า Civic RS นิดหน่อย แต่ UX มีแรงดึงที่มากๆ ชัดเจนตามแรงมอเตอร์ แต่เวลาที่ได้น่าจะต่างกันไม่มาก และคงไม่ต้องไปเทียบกับ CHR เพราะต่างกันเยอะ 
        - พวงมาลัย น้ำหนักน่าจะเหมาะสมกับคุณผู้หญิงที่สุด ผมว่ากำลังดีมาก และสำหรับผู้ชายขับก็โอเครเลย ไม่เบามาก และคมใช้ได้ ในจังหวะสลาลอมนั้น มีอาการย้วยนิดๆ ในจังหวะที่โยน ซึ่งมาจากยางแก้มอ้วนๆ แต่ไม่รู้สึกถึงการบิดตัวของตัวถังเลย ในส่วนของตัวถังนั้นถือว่าแน่นดีมากกกกกก ส่วนช่วงล่างก็มีอาการเอียงแค่นิดหน่อย ใครที่ลอง CHR มาแล้วบอกว่าดี เจ้า UX คันนี้ดีกว่าเยอะเลย 
       - ช่วงล่าง เก็บรอยต่อถนนที่ไม่เรียบได้ประเสริฐและนุ่มละมุนดีมากกๆ เหมาะกับถนนกรุงเทพที่สุด ผมอยากจะบอกว่านุ่มละมุนกว่า NX ด้วยซ้ำ ดังนั้นไม่ต้องเทียบกับ X1 หรือ GLA เลย ความละมุนต่างกันมากๆ มันเป็นรถที่เวลาคุณเลิกงานแล้วรู้สึกเหนื่อยๆ เนื่องจากประชุมมาหนักทั้งวันต้องการผ่อนคลาย ในการขับรถกลับบ้าน คุณจะพอใจกับช่วงล่างของ UX มากกก มันนุ่มสบาย ละมุนผ่อนคลายเป็นที่สุด และช่วงล่างของ UX ก็ไม่ได้เน้นละมุน นุ่มนวลจนย้วยนะครับ ในจังหวะที่บู้ อย่างเช่นสลาลอม ช่วงล่างก็มีการถ่ายเทน้ำหนักในจังหวะที่พอดี ไม่มากเกินไป ไม่ย้วย มีแค่จังหวะเอียงนิดหน่อยให้สัมผัสเท่านั้น เกาะตามไลน์ที่สั่งและไม่ค่อยมีอาการอันเดอร์ดื้อโค้งให้สัมผัส ใครๆก็ขับได้เอาอยู่ ถือว่าเป็นช่วงล่างที่ relax ก็ได้ จะ Race ก็เอาอยู่ เหมาะกับถนนบ้านเราที่สุด (ถ้าใครอย่างเฟิร์มกว่านี้ ก็แค่ใส่ล้อ 18 นิ้ว ยางบางลงนิดนึงก็น่าจะจบ แต่อย่าเอาล้อ 19 นิ้วนะครับ เสียดายความละมุนของช่วงล่าง)
       - เบรค ด้วยความที่เป็นรถ Hybrid เบรคต้องทำงานควบคู่ไประหว่าง คาลิเปอร์กับจานเบรคทั้งสี่ล้อ รวมทั้งมีมอเตอร์ช่วยฉุดรถอีกทางด้วย ตามปกติที่เราสัมผัสในรถ Hybrid ยาก Camry หรือ CHR ก็จะยังมีจังหวะหลอกๆ เวลากดเบรคต่อเนื่อง หรือลงน้ำหนักเพิ่มเพื่อให้รถ เบรคหนักกว่าเดิมที่ยังไม่ Linear มากนัก แต่กับ Lexus UX นั้นอาการแบบนั้นเหลือน้อยมากๆ แต่ก็ยังให้สัมผัสอยู่ว่าเป็นรถไฮบริด แต่เรื่องความหนึบ ไม่ต้องห่วงครับเบรคเอาอยู่แน่นอน
      - ทัศนวิสัย เป็นรถที่มองภายนอกเหมือนดูเล็กๆ แต่พอได้เข้าไปนั่งภายในและขับบนถนนจริงกับเป็นรถที่มีทัศนวิสัยโปร่งโล่งดีมากๆคันนึง สำหรับคุณผู้หญิงขับในเมืองนี้ มองง่ายกะระยะง่ายมากๆ ขับง่ายกว่าขับกว่า Lexus NX หรือ GLA เยอะมากๆ ถือว่าใกล้เคียงกับ BMW X1

          ดังนั้นใครที่กำลังพิจารณาหรือหารถ พรีเมียม SUV ขนาดเล็กอย่าง BMW X1, BENZ GLA, VOLVO XC40 เป็นต้น อยากให้ลองเปิดใจให้กับ Lexus UX หรือ ยิ่งทดลองขับดู แล้วผมเชื่อว่าคุณจะให้ความสนใจมันมากขึ้นอย่างผมแน่นอน (ถ้าในมุมมองของ Drive Master Lexus UX เป็นตัวเลือกในอันดับต้นๆ แน่นอนครับ) ลองขับแล้วจะติดใจเหมือนผม มันคือรถที่เหมาะกับสภาพจราจรแบบกรุงเทพเป็นที่สุด





สนใจติดตาม Drive Master Face Book Page ได้ทางลิ้งค์ : https://www.facebook.com/DriveMasterPage/?ref=bookmarks
          ทาง Drive Master ขอสงวนลิขสิทธ์ข้อมูลและเนื้อหา ห้ามนำเนื้อหาหรือส่วนใดส่วนหนึ่งส่วนใดในเนื้อหาไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก Drive Master ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น