- Hi Lander 4 Door 1.9 Ddi Z Prestige MT 955,000 บาท
เกรดกลางค่อนไปทางท็อบ ซึ่งเป็นตัวที่น่าสนใจและราคาไม่เกินล้าน สำหรับคนที่ต้องการรถ 4 ประตู ยกสูง เบาะหนัง ระบบความปลอดภัยพื้นฐานเพียงพอใช้งาน ส่วนใครที่ต้องการเกียร์ออโต ก็ต้องไปรุ่น AT ราคา 990,000 เพิ่มเงิน 35,000 เพื่อความสบายในการขับ โดยเฉพาะขับในเมือง รายละเอียดจะบรรยายใต้รูปนะครับไฟหน้าเป็น Projector LED พร้อมไฟ DRL สว่างตอนกลางวัน ด้านล่างมีขอบโครเมียมเป็นกรอบด้านล่าง รายะเอียดอื่นไม่มีเพราะแยกไฟเลี้ยวไปไว้อีกดวงนึง
ไฟตัดหมอกพร้อมไฟเลี้ยวแบบหลอดใส้ธรรมดา ส่วนไฟตัดหมอกเป็น LED แยกอยู่ในกรอบในกันชน
ไฟท้าย ไฟหรี่ และไฟเบรคเป็น LED แต่ไฟเลีั้ยวและไฟถอยเป็นหลอดขั้วธรรมดา แบบขั้วใหญ่ราคาประหยัดซะด้วย
ฝากระโปรงท้ายเปิดแบบปกติ ไม่มีโช๊คช่วยผ่อนแรงใดๆ (แม้แต่รุ่นท๊อบสุด V-cross) น้ำหนักหนักใช้ได้ ถ้าเป็นผู้หญิงเปิดอาจจะหนักไปนิดนึงซุ้มล้อหน้า มีแผ่นพลาสติคปิดบางส่วนเพื่อไม่ให้ โคลนสาดเข้าไปสกปรกในห้องเครื่อง ช่วงล่างหน้าเป็นสปริงตามเทรนสมัยนี้ของรถปิคอัพ 4 ประตูเพื่อความนิ่มนวล
ซุ้มล้าหลังเปิดโล่ง มีปิดแค่ส่วนที่จะสาดไปในซุ้มตัวถัง แชชซีส์ไม่มีสนิม หรือคราบฟลักซ์รอยเชื่อมแบบกระบะราคาพรีเมียมเกือบ 2 ล้านนะครับ
ช่วงล่างหลังมองจากด้านดท้าย จะเห็นแหนบ โช๊คขนาดไม่เล็ก ไม่ใหญ่ ถังน้ำมันพลาสติค ยางอะไหล่
ภายในความหรูหราเทียวเท่าตัวท็อบ แค่เปลี่ยนจากหนังสีน้ำตาลเป็นสีดำ ตบแต่งด้วยหนังสีดำเดินตะเข็บขาว พวงมาลัยหุ้มหนัง ผิวสัมผัสเนียนนุ่มใช้ได้ เนียนกว่าของ Ranger และ Everest นะ
คอนโซลด้านบนบุนุ่ม เดินตะเข็บด้ายจริงสีขาว ดูดีเที่ยบเท่า Ranger ตัวท๊อป แต่ถ้ารถมีอุบัติเหตุส่วนนนี้ก็จะทะลุ ต้องเปลี่ยนชิ้นบนทั้งชิ้น
แต่ แต่ แต่ ส่วนอื่นๆ ยังเป็นพลาสติคแข็งโปกเหมือนเดิม ทำให้ห้องโดยสารภาพรวมวัสดุไม่ต่างจากตัวเดิมเท่าไหร่ เพราะผิวสัมผัสยังแข็งเหมือนเดิม ช่องเก็บของด้านบนระหว่างช่องแอร์ เปิดได้ แต่ไม่มีแอร์เย็นแบบ Revo นะครับ ไว้เก็บของเฉยๆ
ปุ่มเปิดสำหรับช่องเก็บของด้านบนแบบกางขึ้น ส่วนช่องเก็บของด้านล่าง คันที่แอดลองเปิดไม่ออก ติดซะงั้น แต่คันอื่นๆ เปิดได้ปกติ น่าจะเป็นปัญหาเฉพาะคัน
ปุ่มควบคุมแอร์ คือชิ้นส่วนภายในที่แอดมินรู้สึกว่าหรูหรา และดูดีที่สุดใน D-Max รุ่นนี้ มีความหน้าตาใกล้เคียงพวกรถยุโรปอย่าง Audi
แผงประตูรุ่นสูงๆ คือส่วนที่มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นมาก มีการบุหนัง เดินตะเข็บด้ายสีขาว ทำให้ผิวสัมผัสดูดี รูปทรงก็คล้ายๆแผงประตูของ Subaru Forester นิดๆ แต่เหมือนงานประกอบจะดีกว่านิดนึง
ส่วนที่ท้าวศอก ก็ทำการบุนุ่มไว้ชัดเจน เพื่อให้ศอกวางแล้วนุ่มๆ ปุ่มหน้าต่างเป็น Auto เฉพาะบานคนขับ
ที่สำคัญ บานประตูหลังก็บุ่นุ่มเหมือนบานประตูหน้าทุกประการ ไม่ลดต้นทุนเป็นพลาสติคแข็งๆ เหมือนที่ค่ายตัว T ทำให้ CHR และ Altis ตัวล่าง
เบาะหลังทำการหุ้มหนัง แต่ก็มีมุมที่นั่งสบายใช้ได้ แต่มุมชันผนักพิงก็แอบตั้งนิด แต่ก็นั่งทางไกล 3-4 ร้อยโลน่าจะพอได้
มีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังด้วย แม้ช่องแอร์จะดูขนาดเล็ก แต่ก็ลมแรงใช้ได้ พร้อมช่องเสียบ USB สำหรับชาร์จให้ 1 ช่องด้านขวาบน
ตั้งแต่ตัว Z-Pretige ขึ้นไป จะเป็นชุดเครื่องเสียงแบบ Live Surround Sound มีลำโพงบนหลังคาเหนือเบาะหน้าให้ 2 ต่ำแหน่งด้วย พร้อมจอเครื่องเสียงขนาดใหญ่พิเศษ
- Hi Lander 4 Door 1.9 Ddi Z ราคา 882,000 บาท
เป็น Hi Lander 4 ประตู เกรดรองจากตัวเริ่มต้น Ddi L รายละเอียดบรรยายใต้ภาพนะครับพอมาเป็นตัวรองจากตัวเริ่มต้น ความหรูหราภายในหายไปหมดเลย ยังดีที่มีการตบแต่งพลาสติคกรอบสีเงินทำให้ดูดีอยู่บ้าง
สำหรับตัวเกรด Z ธรรมดา ด้านบนคอนโซลก็เป็นพลาสติคแข็๋งเหมือนรถส่งของเลยยังไงยังงั้น มีช่องเก็บของบนคอนโซลให้ 1 ช่อง
ถึงแม้ว่ากรอบขนาดจอกลางจะมีขนาดใหญ่ แต่หน้าจอกลางจริงๆ เป็นจอขนาดเล็ก แต่ปุ่มการใช้งานยังเหมือนตัวท๊อป
ปุ่มควบคุมแอร์เป็นปุ่มบิดๆ 3 ปุ่มเหมือนรถทั่วไป แต่ยังดีที่ยังมีช่องเสียบ USB และ AUX ที่มีฝาปิดไว้ เรียบร้อยสวยงามกว่า Altis และ Mazda 3 ใหม่ด้วยซ้ำ
พวงมาลัยเป็นมัลติฟังค์ชั่น ปรับเครื่องเสียงและรับโทรศัพท์ ได้ แต่ไม่มีการตบแต่งสีเงินใดๆ พวงมาลัยเป็นเนื้อยูริเทน
คอนโซลกลางเป็นพลาสติคแข็งๆ ชิ้นงานธรรมดาๆ เหมือนรถรุ่นเดิมๆ ฐานเกียร์หุ้มหนังเทียมมาให้
แผงประตูด้านข้างเป็นพลาสติคแข็งๆทั้งบาน มีแต่ส่วนของที่ท้าวแขนที่บุผ้าสีดำ ที่แสนจะเปรอะคราบฝุ่นสีขาวๆมาให้ ทำไมรถบางรุ่นล่างๆ ถึงชอบทำที่ท้าวแขนเป็นผ้าสีดำ ที่พื้นผิวนั้นเปรอะง่ายๆ มานักนะ
- การทดลองขับขึ่
การทดลองเป็นการทดลองขับสั้นๆ บนถนนที่รถก็แสนจะเยอะ รุ่นที่ลองขับเป็นตัว Hi Lander 4 ประตู 1.9 Ddi Z Prestige A/T ราคา 990,000 บาทฟิลลิ่งจาการทดลงอขับคร่าวๆ ตัวแอดมินเคยลองขับตัว 1.9 มาแล้วตั้งแต่โฉมก่อนตัว Spark อัตราเร่งรถเปล่าก็พอใช้ได้ เมื่อมาอยู่ในตัว D-MAX ตัวใหม่ อัตราเร่ง นั่ง 2 คน น้ำหนักรวมประมาณ 120-130 กก. อัตราเร่งก็พอได้ เพียงพอกับการใช้งาน แต่ไม่ได้เร่งได้ปรูดปราดทันใจนัก
การทรงตัว ช่วงล่างเหมือนจะแข็งขึ้นกว่าตัวเก่านิดนึง แต่ไม่ยวบย้วย เวลาวิ่งบนถนนคลื่นลอนก็มีอาการเด้งๆ หน่อย ซึ่งเด้งมากกว่า Ranger แต่ไม่เด้งแบบ Triton เป็นช่วงล่างกลางๆ ระหว่าง Ranger กับ Triton
ระบบเบรคไม่ถึงกับลึกแบบตัวก่อน แป้นเบรคมีความแข็งค่อนไปทางเบา แต่ไม่เท่ารถเก๋ง ซึ่งแอดมินถือว่าใช้ได้ ภาพรวมก็ประมาณนี้ แต่ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ ก็ไม่ได้นุ่มสบายแบบรถเก๋งแน่นอน ปิคอัพยังไงก็ยังเป็นปิคอัพ จะมีก็แต่ Ranger ที่ช่วงล่างพอจะนุ่มใกล้เคียงรถเก๋งมากที่สุด
สรุป
D-MAX ใหม่ เป็นรถรุ่นใหม่ ที่มีการปรับปรุงหลักๆ คือภายในให้ดูหรูหราขึ้น แต่ภายนอกรวมๆ ไม่ต่างจากตัวเดิมสักเท่าไหร่ แต่ก็มีการเพิ่มระบบความปลอดภัยแบบชั้นกลางมาให้เท่านั้น แค่ระบบเตือนมุมอับและระบบเตือนด้านข้างเมื่อถอยหลัง แต่ก็ยังขาดพวกระบบความคุมความเร็วตามรถคันหน้า ระบบเตือนออกนอกเลน หรือระบบช่วยเบรคให้ ถ้ามีระบบความปลอดภัยพวกนั้น ถึงจะสมเป็นกระบะพลิกโลกของจริง ซึ่งก็เป็นสไตล์ของตีเพด... ที่ถนัดเรื่องการกั๊กออฟชั่น ใส่มาให้เท่าที่จำเป็น ให้ทันคู่แข่ง หรือเหนือกว่าคู่แข่งนิดหน่อยเป็นพอ ในภาพรวมการขับขี่ทั้งคัน แอดมินก็ยังคิดว่า Ranger เป็นที่สุด แต่เรื่องคุณภาพชิ้นส่วน ศูนย์บริการก็เป็นอีกเรื่องนึง ที่ Isuzu ก็ยังเป็นที่หนึ่งในเรื่องการเคลมได้ง่าย ได้เร็ว และศูนย์บริการ แต่ก็อาจเป็นเพราะรถทั้งคัน ยังไม่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ อะไรมากมายนักก็เป็นได้ ทำให้การแก้ปัญหาไม่ยากเย็นทั้ง เพราะไม่ได้มีเทคโนโลยีอะไรใหม่ๆที่ต้องเรียนรู้มากนัก
* สนใจติดตาม Drive Master Face Book Page ได้ทางลิ้ง : https://www.facebook.com/DriveMasterPage/?ref=bookmarks ** ทาง Drive Master ขอสงวนลิขสิทธ์ข้อมูลและเนื้อหา ห้ามนำเนื้อหาหรือส่วนใดส่วนหนึ่งส่วนใดในเนื้อหาไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก Drive Master *** ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ




























ปุ่มแอร์ ปุ่มระบบอากาศ แบบนี้สวย แต่ใช้งานยากมาก ใครขับรถ ต้องละสายตามาปรับ มากด จัดว่าอันตรายครับแบบนี้
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ