https://drivemasterpage.blogspot.com/

Toyota Majesty รถตู้วินที่่ดัดแปลงให้หรู จะขายดีและฮิตติดลมบนแน่นอน

                       จากกระแสช่วงหลังที่คนพอร่ำรวยหรือเริ่มมีฐานะและเริ่มเบื่อกับรถยุโรปที่หลายคนใฝ่ฝันที่พอใช้จริงๆแล้วไม่ฟินเหมือนที่ฝันไว้ ไม่ว่าจะเป็นค่าดูแลเซอร์วิสที่้โหดร้าย หรือความจุกจิกเสียบ่อยๆ ทั้งที่รถยังใหม่ๆ จนเมื่อขายรถในฝันไปแล้ว เริ่มมองหารถทดแทนที่ดูหรูหรา นั่งสบาย (เวลามีคนขับ) ช่วงล่างนุ่ม กว้างขวาง ทนทาน ค่าดูแลรักษาไม่แพงมาก จนเกรย์มาร์เก็ตเริ่มเห็นช่องทางในการขาย เลยนำรถตู้หรูค่ายญีปุ่นอย่าง Toyota Alphard/Vellfire (ก่อนหน้านี้มี Estima แต่พอใช้จริง ก็ไม่ได้ดูหรูเท่า Alphard ก็เลยยอดขายเริ่มหดหายไปตามระเบียบ) ซึ่งรถ 2 รุ่นนี้ เกรย์มาเก็ตขายดี จนโตโยต้าประเทศไทย เริ่มเสียดาย และอิจฉา เลยนำเข้ามาขายเอง แต่ก็ดันตั้งราคาซะมหาโหดโดดไป สามล้านปลาย ตัวท๊อปห้าล้านกว่า (Vellfire 3.809 ล้านบาท Alphard 3.939-5.429 ล้านบาท) ซึ่งราคาก็ยังสูงไปเมื่อเทียบกับเกรย์มาเก็ตที่ทำราคาประมาณ สามล้านกว่าๆ ได้ออฟชั่นเหมือนกันหรือบางทีสูงกว่าด้วยซ้ำ (Alphard 3.5VIP 5.429 ล้านบาท ราคาโหดขนาดนี้แต่ดันไม่มี Toyota Saftey Sense ด้วยซ้ำ คิดดู CHR ล้านต้นๆยังมีแล้ว) ทำให้คนมีฐานนะหลายคนก็ยังเลือกที่จะซื้อกับเกรย์มาเก็ต แม้จะต้องเสี่ยงเรื่องการเซอร์วิสและรับประกันบ้าง แต่ก็ดูคุ้มกว่าส่วนต่างเป็นล้านที่ต้องเสียเพิ่มเมื่อซื้อจากศูนย์โตโยต้า
                     หลังจากที่โตโยต้าได้ทำการเปิดตัวรถตู้ Hiace หลังจากที่รุ่นเดิม รถตู้วินหรือ รถตู้ท่องเที่ยวได้ทำการใช้งานกันจนเริ่มเก่ามากๆแล้ว และเริ่มมองเห็นช่องทางทางการตลาด โดยการ
- ทำการอัพเกรดรถตู้ Hiace ขนของ ช่วงล่างแหนบ โดยเปลี่ยนมาใช้ช่วงล่างแบบ PPV และขายในราคาที่เอื้อถึงได้ ล้านปลายถึง 2 ล้านกว่า
cr. picture: Toyota.co.th
- ใส่ออฟชั่นแบบที่คนไทยชื่อนชอบใน Alphard เช่นเบาะนั่งหรูหราแบบชั้น Business class บนสายการบิน ลายไม้ แสงไฟภายในห้องโดยสาร ซึ่งส่วนต่างเหล่านี้มีราคาหลักไม่กี่หมื่น หรือบางอย่างแค่หลักร้อยหรือหลักพัน แต่กลับสามารถอัพราคาขายจาก Hiace GL รถตู้ส่งของ มีหน้าต่าง หลังคาเตี้ย ราคา 1.079 ล้าน ให้เป็นราคา 1.709 ล้านบาท (+เพิ่ม 630,000 บาทจากการเปลี่ยนช่วงล่างหลัง ภายนอกด้านหน้า และการตกแต่งภายใน ที่น่าจะมีต้นทุนไม่เกิน 3 แสน )

cr. picture: Toyota.co.th
- ทำการอัพระดับของ Alphard/Vellfire ไปเป็นแบรนด์หรูอย่าง Lexus LM แทน เพื่อให้ขายได้กำไรเพิ่มขึ้นมากๆ แบบไม่มีเหตุผล

cr. picture: car.kapook.com

           เมื่อมองจากช่องทางทางการตลาดและการทำกำไรอย่างพลังทวีแบบด้านบนแล้ว ทำให้โตโยต้าตัดสินใจ นำเสนอ Toyota Majesty ให้มีระดับความหรูแบบใกล้เคียงน้องๆ Alphard  ที่แอดมินทำนายได้เลยว่าต้องขายดีเทน้ำเทท่าแน่นอนเพราะ
      1. ราคาเอื้อมถึงได้ง่าย ในราคาแค่ ล้านปลายถึง 2 ล้านกว่า แพงกว่า  Fortuner ตัวท๊อป นิดเดียว (ที่ไม่มีระบบความปลอดภัยขั้นสูงใดๆเลย) น่าจะนั่งสบายกว่า นุ่มกว่า โล่งกว่า
      2. คนที่ซื้อ Toyata Majesty จะรู้สึกเหมือนตัวเองได้นั่ง Alphard ในราคาที่ประหยัดกว่าหลายล้าน จะเสียเงินเพิ่มให้... ไปทำไม (อันนี้แอดขอถ่ายทอดจากความรู้สีกคนอื่น ที่พูดกันตอนไปดูรถที่งาน)
      3. ดูแลรักษาง่าย ค่าเซอร์วิสแทบไม่ต่างจาก Forutner เผลอๆถูกกว่า เพราะไม่ต้องมีระบบขับสี่มาให้กวนใจ เพราะหลายคนที่ซื้อ Fortuner ตัวท๊อปแทบไม่ได้ใช้ระบบขับสี่ วิ่งแต่บนถนนปกติ แต่อยากได้ออฟชั่นครบๆ ก็เลยต้องซื้อตัวท็อป จุดนี้ Majesty จะแยกลูกค้า Fotuner ไปได้ไม่น้อยแน่นอน
      4. ลูกค้าที่ปกติใช้ Camry และมีคนขับ ย่อมเปลี่ยนใจมาใช้ Majesty แน่นอน แพงกว่านิดหน่อย นั่งสบายกว้างขวาง เป็นส่วนตัว เวลาลงจากรถ เปิดประตูไฟฟ้า ดูหรูหรา มีตังค์ฺกว่าเยอะ 555
      5. ลูกค้าที่เคยสนใจ Hyundai H1 จะเปลี่ยนใจมา Majesty เกือบหมด เพราะแบรนด์น่าเชื่อถือกว่าสำหรับประเทศไทย ศูนย์บริการเพียบ อะไหล่เหมือนรถตู้ส่งของหาไม่ยาก ขนาดไม่ใหญ่เกินไปแบบ H1 เวลาเข้าห้างก็สะดวกขึ้น
     6. ลูกค้าที่เคยสนใจ Kai Carnival ก็อาจเปลี่ยนใจมาบ้าง เพราะ Canival มีความต่างจาก H1 และ Majesty ตรงที่ดูเป็นรถครอบครัว เจ้าของขับเอง ไม่ดูเป็นคนขับรถแบบ Majesty (H1 Majesty คนขับกลายเป็นคนขับรถ 100%)
                  จากสเปคคร่าวๆ

  • รุ่นและราคา

1. ตัวเริ่ม Standard 1,709,000 บาท

2. ตัวกลาง Premium 1,899,000 บาท (+190,000 บาท)
+ ประตูสไลด์แบบไฟฟ้า
+ เบาะหลังแถวแรก แบบ captain seat ปรับเอนไฟฟ้า เลื่อนมือ พร้อมที่รองขา และนวดหลังไฟฟ้า
+ กล้องมองรอบคัน
+ ระบบเตือนลมยาง

ทั้งหมดนี้ เพิ่มเกือบ 2 แสน คุ้มไหม ที่แอดมองว่าน่าสนใจมีแค่ประตูไฟฟ้า เบาะไฟฟ้า และกล้องรอบคันที่จำเป็นสำหรับรถคันใหญ่ๆแบบนี้ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ งบไม่น่าจะถึง 9 หมื่น แล้วที่เหลือระบบเตือนลมยางแสนนึงบาท คุ้มไหม???

3. ตัวท๊อป Grande 2,199,000 บาท (+300,000 บาท)
+ Navigator
+ T-Connect Telematics
+ ระบบ Safety Sense
       - ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PCS)
       - ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
       - ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (LDA)
       - ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (VSW)
พวกระบบความปลอดภัยขั้นสูงแบบนี้ แอดมินมี Honda Civic RS +Honda Sensing เป็น Benchmark ที่เพิ่มราคาขายแค่ 2 หมื่นบาท (ที่เป็นระบบของ Bosch แบบรถยุโรป)  ถ้าเกินกว่านี้ ถือว่าแพงหมด 
สำหรับ ตัวท๊อป แอดมินบวกให้เพิ่มอีก 3 หมื่น สำหรับ Navi และ  T-connect รวมเป็นประมาณ 5 หมื่นแบบคิดแพงๆแล้วนะ แล้วอีก 250,000 บาท คืออะไร ????? คุ้มของแต่ละคนไม่เหมือนกัน เพราะถ้ามองอีกมุม Alphard 5.429 ล้าน ก็ยังไม่มีระบบนี้ 555
  • เครื่องยนต์
                  เหมือนกันทั้ง 3 เกรด เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ดีเซลเทอร์โบ เหมือน Revo Fortuner Hiace หมดห่วงเรื่องอะไหล่ นี้คือจุดแข็ง แต่เนื่องจากผลิตที่้ญี่ปุ่น ทำให้ต้องจูนลดความแรงลงมานิดนนึง เพื่อให้ผ่านมาตราฐานมลพิษ จาก 177 แรงม้า เหลือ 163 แรงม้า  เครื่องยนต์ติดตั้งไว้ด้านหน้า เพื่อความปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าเวลาชนกับแบบประสานงา (เดิมเครื่องวางอยู่ได้เบาะหน้า)




               
                                                  รายละเอียดส่วนอื่นๆ แอดมินขอบรรยายมใต้ภาพนะครับ
 
                     จากรูปภายนอกนั้น จะเห็นได้ชัดเจน ว่าโครงสร้างหลักของ Majesty จะเหมือนกันรถตู้ส่งของ Hiace หรือรถตู้วินอย่าง Commuter แต่มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนด้านหน้า เช่นกระจังหน้า ไฟหน้า กันชนหน้า เพื่อให้มีความหรูหรากว่ารถตู้ส่งของปกติ แต่โครงสร้างตั้งแต่ประตูหน้า จนถึงเสาด้ายท้ายจะเหมือนกันรถตู้หลังคาเตี้ยไม่ผิดเพี้ยนเลย สามารถพิสูจน์ได้จากรูปด้านล่างนี้เลย


                                                                cr. picture: Toyota.co.th

                                                        Cr. picture Toyota Commutor : Toyota.co.th

ไฟท้าย ได้ทำการเปลี่ยนเป็น LED และเพิ่มไฟในส่วนของฝ้าท้าย และกรอบรอบป้ายทะเบียนให้หรูหรา แต่สังเกตุว่าโครงสร้าง หรือแม้แต่กันชนท้ายก็แทบไม่ต่างจาก Commuter

ล้อแม็กซ์อัลลอย 17 นิ้ว สีดำปัดเงา พร้อมยางขนาด 236/60 R17



จากรูปภายใน Commuter ด้านบน กับรูปภายในของ Majesty ด้านล่าง จะเห็นได้ว่าโครงสร้างหลักๆ เหมือนกันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ช่องแอร์ กรอบวิทยุ กรอกเกียร์ กรอบหน้าปัทม์ รวมถึงลักษณะก้านของพวงมาลัยเหมือนกัน แต่ Majesty ได้ถูกแต่งแต้มด้วยวัสุดดำเงา ลายไม้ ปุ่มของฟังค์ชั่นต่างๆ เพื่อให้ดูดีและแพงกว่า

 ภายในหุ้มเบาะหนัง

 พวงมาลัยมัลติฟังค์ชั่น ลายไม้

 ปุ่มเปิดประตูสไลด์ ซ้าย-ขวา แบบไฟฟ้า

กรอบประตูใส่ลายไม้บริเวณปุ่มหน้าต่าง เพื่อให้แตกต่างจาก Commuter

 เบาะหลัง Commuter มี 4 แถวเน้นขนคน ที่ว่างระหว่างขา ไม่ต้องพูดถึง
เบาะหลัง Majesty มี 3 แถว แถวแรก 2 ที่นั่ง แถวที่ 2 2 ที่นั้ง แถวที่ 3 4ที่นั่ง
 
เบาะหลังแถวแรก ยกความหรูของเบาะ Alphard มาเกือบ 80%  มีถาดรองน่อง หัวเบาะทรงมิกกี้เม้าส์รองหน้าเวลาหลับ มีเบาะนวด และอื่นๆอีกเพียบ (เฉพาะรุ่น กลาง และรุ่นท๊อป)
 
เบาะหลังแถวที่ 2 ลดความหรูหรา สะดวกสบายลง ไม่มีถาดรองน่อง ไม่มีเบาะนวด (รุ่นเริ่มต้น เบาะหลังแถวแรก จะเป็นแบบนี้)

เบาะแถวที่ 3 หรือ แถวสุดท้าย เป็นเบาะราบๆเหมือนเบาะรถตู้ จริงๆก็คือเบาะแถบ เพื่อให้ตีตั้วเป็นรถ 11 ที่นั่งได้ ภาษีนำเข้าราคาถูกกว่า  เมื่อติดตั้งเบาะแถวสุดท้ายจะมีที่เหลือว่างของได้นิดเดียว จะเอากระเป๋าสอดใต้เบาะก็คงไม่กว้างพอ คนส่วนใหญ่ที่ซื้อไป คงถอดเบาะแถวที่สองออก เพื่อวางของ แต่ระวังโดนด่านตรวจเรียกจับนะครับ จะโดนปรับเอา ทางโตโยต้า เลยหาทางออกโดยการออกแบบให้ตัวเบาะสามารถพับเก็บด้านข้างได้ ฝั่งละ 2 ที่นั่ง ก็จะได้พื้นที่วางของเพิ่มขึ้นนิดหน่อย และเวลาโดนด่านก็ยังเถียงได้ว่ามีเบาะแถว 3 ไม่ได้ถอดออก 555

ที่นั่งเบาะหลัง เมื่อถอยเบาะด้านหลังไปจนสุด (เบาะแถวที่ 3 ไม่มีที่ว่างขาเลย) เบาะหลังก็จะมีที่ว่าง วางขาได้เยอะขนาดนี้ เหลือเฟือสำหรับการเหยียดขาไปข้างหน้า

 
ที่แผงด้านข้างถัดจากประตูหลัง มีช่องสำหรับชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้า ฝั่งละ 2 รู รวมเป็น 4 รู

รวมทั้งยังมีม่านอัตโนมือ สำหรับดับดึงขึ้นเองเพื่อบังแดด หรือบังสายตาจากคนภายนอก

มุมมองเพดาน มีช่องแอร์สำหรับด้านหลัง ไม่มีชุดทีวีด้านหล้งมาให้

                    จากรูปและข้อมูลที่แอดมินนำเสนอ เป็นยังไงกันบ้างครับ เอาจริงๆ ตัวรถก็มีความน่าสนใจใช้ได้เลย สำหรับคนที่ต้องการรถครอบครัว เอนกประสงค์ มีคนขับรถ แต่สำหรับแอดมินตัวที่คุ้มค่าเงินที่สุดคงเป็นตัวเริ่ม 1,709,000 บาท เพราะประตูไฟฟ้ามันได้ความเท่ห์ แต่ก็มีข้อเสียตรงเวลาพัง ซ่อมบานละหลายหมื่น เปิดได้ช้าเวลารีบๆ หรือฉุกเฉินไม่ทันใจ จากประสบการณ์ที่บ้านแอดใช้อยู่ ซึ่งจริงๆ แล้วความคุ้มค่าและความจำเป็นของแต่ละท่านไม่เหมือนกัน แอดมินก็ขอแค่เสนอมุมมองของแอดมิน เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจเพิ่มแค่นั้นนะครับ ขอบคุณสำหรับการอ่านและติดตาม Drive Master.....


สนใจติดตาม Drive Master Face Book Page ได้ทางลิ้ง : https://www.facebook.com/DriveMasterPage/?ref=bookmarks ทาง Drive Master ขอสงวนลิขสิทธ์ข้อมูลและเนื้อหา ห้ามนำเนื้อหาหรือส่วนใดส่วนหนึ่งส่วนใดในเนื้อหาไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก Drive Master ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

1 ความคิดเห็น: