VOLVO XC60 T8 R-Design
(World Car of The Year, SUV Car of The Heart !!!หลังจากที่ Volvo ได้เปิดตัว XC90 มานั้น ก็ทำให้ผู้คนที่ต้องการสนใจ SUV คันขนาดกลาง ออฟชั่นครบ ความปลอดภัยเป็นเยี่ยม เฝ้ารอการมาของ New Volvo XC60 ว่าจะเป็น XC90 Junior หรือร่างจำแลงขนาดเล็กลงของ XC90 หรือไม่ คนที่เฝ้ารอก็สมหวังไปตามๆกัน เพราะ Volvo XC60 ได้ถอดแบบจาก XC90 มาเต็มๆ และมีขนาดเล็กลง กำลังเหมาะสม
จริงๆ แล้ว Volvo ประเทศไทย ได้ทำการเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ไปตั้งแต่ พฤศจิกายน ปี 2017 แต่จากการที่ ลูกค้าได้ไปทดลองขับ หรือ บอกกันปากต่อปาก ถึงคุณงามความดี และความน่าใช้ของรถรุ่นนี้ ที่ใครก็ตาม ถ้าได้สัมผัส หรือ ได้ทดลองขับ จะต้องติดใจ และอยากได้เป็นเจ้าของกันเกือบทุกคน
(คงยกเว้นคนที่ไม่ชอบวอลโว่ จริงๆ เท่านั้นแหละ แต่หลายคนที่ไม่ชอบ ไม่สนใจ ในตอนแรก แต่ถ้าลองเปิดใจ ก็จะติดใจกันหลายคน) Volvo XC60 โฉมนี้ประกอบที่มาเลเซีย แล้วนำเข้ามาขายในไทย เพื่อสิทธิการยกเว้นภาษีนั้นเอง
เปิดตัวด้วย 3 รุ่น 3 เกรด คือ
1. D4 AWD Mometum 3.09 ล้านบาท
- เครื่องยนต์ ดีเซลคอมมอนเรล 2 ลิตร (1,969 cc.) 4 สูบ
- 190 แรงม้าที่ 4,250 รอบต่อนาที แรงบิด 400 นิวตันเมตรที่รอบ 1,750-2,500 รอบต่อนาที
- เร่ง 0-100 กม/ชม. ภายใน 8.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 205 กม/ชม.
- เกียร์ 8 speed พร้อม Gear tronic
- ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยเครื่องยนต์
- ล้อ 18 นิ้ว ยางขนาด 235/60 R18
- ถังน้ำมัน 60 ลิตร
ระบบพื้นฐาน
- ไฟหน้า LED ปรับระดับอัตโนมัติ พร้อม LED Day time running light ไฟสว่างเวลาขับขี่ตอนกลางวัน
- Start/Stop Tech. ขณะรถติด
- Tire Presure Monitoring Sys. ระบบเตือนลมยางอ่อน
- Road Sign Info. แจ้งเตือนป้ายจราจร เช่น ป้ายจำกัดความเร็ว
- Hill Start Assist ช่วยขึ้นทางลาดชัน
- Hill Desแent Control ช่วยชะลอรถลงทางลาดชัน
- กล้องมองหลัง
- เซ็นเซอร์ช่วยจอดหน้า-หลัง
- Rain Sensor ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
- Keyless Entry & Keyless Drive ระบบปลดล็อค และขับขี่โดยไม่ต้องหยิบกุญแจ
- ระบบไฟส่องสว่างนำทางเข้าบ้าน ก่อนขึ้นรถ และหลังลงจากรถ
- ระบบแอร์อัตโนมัติ 2 โซน
- ระบบคุมคุณภาพอากาศภายใน Clean Zone
- เบาะคนขับปรับไฟฟ้า พร้อมหน่วยความจำตำแหน่ง
- เบาะพร้อมส่วนรองรับบริเวณเอวที่พนังพิงหลังของเบาะคู่หน้า ปรับด้วยไฟฟ้า แบบ 4 ทิศทาง
- เบาะหลัง พับพนักพิงได้แบบ 60/40
- ฝากระโปรงท้าย ปิดได้ไฟฟ้า ไม่ต้องใช้มือดึง
- ราวหลังคา
- จอกลาง แสดงผลแบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว ใหญ่มากๆ
- ระบบ Sensus Connect พร้อมสั่งการด้วยเสียง
- ระบบนำทาง Navigation
- รองรับการเชื่อมต่อโทรศัพท์ทั้ง OS ของ I-phone และ Android
- เครื่องเสียง 330 วัตต์ พร้อมลำโพง 10 ตัว
- เชื่อมต่อเครื่องเสียงด้วยบูลทูธ
- ระบบกระจาย Wifi ในรถ เป็นต้น
ออฟชั่นเฉพาะตัวเริ่มต้น ก็เยอะกว่ารถยุโรปค่ายอื่นๆ ในราคาพอๆกันแล้วละครับ
ระบบความปลอดภัยแบบจัดเต็มจะมีเหมือนกันทั้ง 3 เกรด คือ
- City Safety ป้องกันชนคนเดินถนน คนขี่จักยาน และสัตว์ขนาดใหญ่ โดยการหยุดและหักหลบอัตฌนมัติ
- Collision Avoidance& Mitigation Support with Auto Brake ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และบริเวณทางแยก
- Blind Spot Info. Sys. (BLIS) ระบบแจ้งเตือนมุมอับ เมื่อมีรถหรือวัตถุอยู่ในมุมอับด้านข้างรถ
- Cross Traffic Alert (CTA) ระบบแจ้งเตือนเมื่อเรากำลังจะถอยหลังออกจากช่องจอด (กรณีเราจอดแบบเอาหัวรถเข้าช่อง) แล้วมีรถมาด้านข้าง
- Driver Alert Control ระบบเตียนเมื่อผู้ขับขี่แสดงอาการเหนื่อยล้า หรือ จะหลับในนั้นเอง
- Lane Departure Warning (LDW) ระบบเตือนเมื่อเราขับออกนอกเลน โดยไม่ได้เปิดไปเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนเลน
- Lane Keeping Aid (LKA) ระบบเตือนด้วยแรงสั่นที่พวงมาลัยเมื่อวิ่งออกนอกเลน
- Electronic Stability Control (ESC) ระบบควบคุมการทรงตัวและยึดเกาะถนน จะทำงานเมื่อรถเริ่มเสียการทรงตัว
- Corner Traction Control by Torque Vectoring ระบบควบคุมการทรงตัวในโค้ง คือช่วยลดการเอียงของตัวรถเวลาเข้าโค้งโดยการบาลานซ์แรงเหวี่ยงของรถ
- Anti-locking brakes and Ready Alert Brake ระบบป้องกันล้อล็อคเวลาถนนลื่น และระบบช่วยสร้างแรงเบรคให้พร้อมกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน (พูดง่ายคือรถจะเตรียมแรงเบรคสูงสุดให้พร้อม เมื่อเราเบรค จะเบรคเต็มที่ได้ทันที รถก็จะหยุดได้เร็วกว่าปกติในกรณีฉุกเฉิน เพราะไม่ต้องเสียเวลาสร้างแรงเบรค)
- Roll Stability control (RSC) ระบบป้องกันการโคลงตัวของรถ
- Active High Beam Control ระบบเปิดปิดไฟสูงอัตโนมัติ กรณีเราขับทางมืดๆ ต่างจังหวัดเราเปิดไฟสูง รถจะลดเป็นไฟต่ำให้เอง เมื่อมีรถสวน และเปิดไฟสูงเองเมื่อรถวิ่งผ่านไป
- Tunel Detection ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติเมื่อเข้าอุโมงค์
- ระบบกันขโมยพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว และ ระนาบของรถ
- Run-off Road Protection ระบบป้องกันรถตกถนน ระบบจะป้องกันคนในรถเต็มที่ถ้าขับตกถนน
- ถุงลมนิรภัยด้านหน้าและด้านข้าง สำหรับคนขับ และผู้โดยสาร
- ม่านถุงลมด้านข้าง
- Whiplash Protection Sys. (WHIPS) ระบบป้องกันบาดเจ็บกระดูกต้นคอและหลัง จากกระสะบัดของศรีษะ กรณีถูกชนด้านท้าย เป็นต้น
- Side Impact Protection Sys. (SIPS) ระบบการะจายแรงกระแทกด้านข้าง
- เข็มขัดนิรภัย 3 จุด พร้อมดึงกลับอัตโนมัติทุกที่นั่ง
- อุปกรณ์ยึดเบาะเด็น isofix
- ระบบป้ิองกันเด็กเปิดประตูแบบไฟฟ้า (รถปกติทั่วไปต้องเขี่ยเปิดทีประตูหลัง)
- ระบบช่วยการขับขี่กึ่งอัตโนมัติ ถึงความเร็ว 130 กม/ชม (ระบบกึ่งช่วยขับรถ)
- ระบบโหมดการขับขี่ ให้เลือก
- Adaptive Cruise Control with Queue Assist ระบบควบคุมความเร็วแปรผัน พร้อมหยุด-ออกรถอัตโนมัติ
ระบบความปลอดภัย เยอะมากๆ เยอะจนคนพิมพ์เหนื่อย ผมคิดว่าเยอะที่สุดกว่ารถทุกยี่ห้อ ที่ขายในไทย ที่ราคาพอๆกัน
สามารถดูวีดีโอ สาธิตระบบได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ครับ
2. T8 Twin Engine AWD Mometum 3.29 ล้านบาท
เพิ่มเงิน 2 แสนบาท สิ่งที่ได้เพิ่มคือ
- เครื่องยนต์เบนซิล 2 ลิตร (1,969 cc.) 4 สูบ พร้อมปลั๊กอินไฮบริด Drive-E พร้อม ซุบเปอร์ชาร์จ เทอร์โบชาร์จ และ มอเตอร์ไฟฟ้า
(สรุปง่ายๆ มี 4 ระบบช่วยกัน คือ เครื่องยนต์เบนซิน + Supercharged + Turbo-charged+ Motor)
สุดยอดไหมล่ะครับ เราไม่ค่อยได้เจอเครื่องยนต์ที่มีระบบเยอะขนาดนี้กันบ่อยนัก ในราคา 3 ล้านนิดๆ
- แรงม้าเครื่องยนต์ 320 แรงม้าที่ 5,700 รอมต่อนาที + แรงม้ามอเตอร์ 87 แรงม้า รวมเป็น 407 แรงม้า!!!
แรงบิดถึง 640 นิวตันเมตร แรงม้า แรงบิด เยอะมากกก (เพิ่ม 217 แรงม้า, แรงบิด 240 นิวตันเมตร)
- อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม. ภายใน 5.3 วินาที นี้มันรถสปอร์ตในคราบ SUV ชัดๆ
- ความเร็วสูงสุด 230 กม/ชม.
- ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเครื่องยนต์ ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยมดเตอร์ รวมเป็นขับเคลี่ยน 4 ล้อ
- ถังน้ำมันจุลดลง จาก 60 ลิตร เหลือ 50 ลิตร
ระบบที่ได้เพิ่มเติม
- หลังคา ซันรูฟไฟฟ้า และ พาโนรามิก Panoramic Roof
- หัวเกียร์คริสตัลทำด้วยมือ จาก Orrefors
ส่วนต่างที่เพิ่มหลัก คือ เครื่องยนต์ เพิ่ม 217 แรงม้า กับ พาโนรามิค แลกกับเงิน 2 แสน เหมาะกับคนที่ต้องการเครื่องแรงเหมือนตัวท๊อป และมีหลังคาพาโนรามิค เพื่อให้มีความโปร่ง และนอนดูดาวได้
คุ้มไหม ถามใจเธอดู
3. T8 Twin Engine AWD R-design 3.59 ล้านบาท
เพิ่มเงิน 5 แสนบาท จากตัวเริ่มต้น สิ่งที่ได้เพิ่มคือ
- เครื่องยนต์เบนซิล 2 ลิตร (1,969 cc.) 4 สูบ พร้อมปลั๊กอินไฮบริด Drive-E พร้อม ซุบเปอร์ชาร์จ เทอร์โบชาร์จ และ มอเตอร์ไฟฟ้า
(สรุปง่ายๆ มี 4 ระบบช่วยกัน คือ เครื่องยนต์เบนซิน + Supercharged + Turbo-charged+ Motor)
สุดยอดไหมล่ะครับ เราไม่ค่อยได้เจอเครื่องยนต์ที่มีระบบเยอะขนาดนี้กันบ่อยนัก ในราคา 3 ล้านนิดๆ
- แรงม้าเครื่องยนต์ 320 แรงม้าที่ 5,700 รอมต่อนาที + แรงม้ามอเตอร์ 87 แรงม้า รวมเป็น 407 แรงม้า!!!
แรงบิดถึง 640 นิวตันเมตร แรงม้า แรงบิด เยอะมากกก (เพิ่ม 217 แรงม้า, แรงบิด 240 นิวตันเมตร)
- อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม. ภายใน 5.3 วินาที นี้มันรถสปอร์ตในคราบ SUV ชัดๆ
- ความเร็วสูงสุด 230 กม/ชม.
- ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเครื่องยนต์ ขับเคลื่อนล้อหลังด้วยมดเตอร์ รวมเป็นขับเคลี่ยน 4 ล้อ
- ถังน้ำมันจุลดลง จาก 60 ลิตร เหลือ 50 ลิตร
- ล้อจาก 18 นิ้ว เป็น 19 นิ้วของ R-design พร้อมยาง 235/55 R19
- ชุดแต่ง R-design กระจังหน้า กระจกมองข้าง พวงมาลัย แป้นเหยียบ และกุญแจ
ระบบที่ได้เพิ่มเติม
- ไฟหน้า LED หักเหตามการเลี้ยวของพวงมาลัย
- หลังคา ซันรูฟไฟฟ้า และ พาโนรามิก Panoramic Roof
- ระบบช่วยจอดรถ ทั้งถอยหลังเข้าซอง หรือ จอดฟุตปาท
- กล้องมองภาพรอบรถ 360 องศา
- เบาะสปอร์ต หนังสลับอคันทาล่า ของ R-design
- หัวเกียร์คริสตัลทำด้วยมือ จาก Orrefors
- พนักพิงศรีษะเบาะหลังปรับพับด้วยไฟฟ้า
- เครื่องเสียวสุดไพเราะ ของ Bowers&Wilkins 1100 วัตต์ ลำโพง 15 ตัว พร้อมซับวูฟเฟอร์
ระบบสียงรอบทิศทาง Quantum Logic , ระบบเสียงสมจริง 3 โหมด Dirac Dimensions (concert, Studio, Stage) และฝาครอบลำโพงทวีตเตอร์แบบสเตนเลสสตีลสวยงาม
เมื่อมองที่ส่วนต่าง 5 แสนจากตัวเริ่มต้น ได้เครื่องแรง และเครื่องเสียงเพราะ หลายๆคนอาจจะมองว่าคุ้ม และถ้าต้องการสุด ก็ต้องจัดตัวนี้ แต่ถ้าเน้นใช้งานพอเพียง (เหลือเฟือ ถ้าเทียบกับรถระดับเดียวกัน ค่ายอื่นๆ) หรือกังวลเกี่ยวกับค่าดูแลรักษาของระบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไฮบริค หรือ ซูปเปอร์ชาร์จที่เพิ่มเข้ามา ก็จัดตัวเริ่มต้นก็ถือว่าคุ้มค่าที่สุด
(หมายเหตุ :ตัวอักษรสีฟ้า คือที่แตกต่างจากตัวกลาง T8 Momentum ส่วนต่าง 3 แสนบาท)
การรับประกัน
- Volvo Warranty 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
- Volvo Roadside Service 24 ชม. 1 ปี
ส่วนแรก เรามาเริ่มต้นกับรายละเอียดของตัวรถ (รูปรีวิวหลักๆ จะเป็นตัวท๊อป R-design นะครับ)
- ภายนอก
กระจังหน้าของ R-design จะเป็นเส้นแนวนอน (ตัวปกติเป็นเส้นแนวตั้ง)
ล้อของ R-Design จะเป็น 19 นิ้ว สีดำ ปัดเงา ก้านคู่ 5 ก้านชิดกัน (ตัวปกติเป็นล้อ 18 นิ้ว สีเทา 5 ก้านคู่แบบห่าง) กระจกมองข้างจะเป็นสีเทาอลูมิเนียม แต่เป็นพลาสติคทำสีไม่ใช้อลูมิเนียมจริงนะครับ (ปกติจะเป็นสีตามตัวถังรถ)
ถ้าเป็นรุ่น T8 มีฝาเปิดเพื่อชาร์จไฟ ปลั๊กอินไฮบริด หลังซุ้มล้อหน้า ก่อนประตุหน้า ฝั่งคนนั่ง
ด้านท้ายกันชนหลังแบบสปอร์ตท่อปลายคู่วงรีสำหรับ T8 R-Design และจะมีโลโก้ T8 R-Design ที่ด้านขวา ตัวเริ่มต้นเป็นกันชนธรรมดา พร้อมท่อคู่กลม
- ภายใน
เป็นภายในที่ดูหรูหรา อลังการที่สุด ใน class
จอกลางขนาดใหญ่ 9 นิ้ว ขนาดใหญ่เท่า Tablet หรือ I-pad
เมนูหลักๆ
เมนูรอง
คอนโซลหน้า จะตบแต่งด้วย แถบอลูมิเนียม และพลาสติกสีดำเงา
ดูแถบอลูมิเนียมกันชัดๆ
คอนโซลกลางก็ยังตกแต่งด้วยทริมลายอลูมิเนียมเจาะรู สวยงาม หรูหรา
ปุุ่มเหลี่ยมถัดจากเกียร์เป็นปุ่มที่บิดเพื่อ Start เครื่องยนต์
ถัดลงมาปุ่ม หมุน มีเกลียวร่อง คือปรับโหมดการขับขี่
ถัดลงมา ปุ่มอักษรตัว P คือ ปุ่มเบรคมือไฟฟ้า
หัวเกียร์เป็นคริสตัลใส ทำด้วยมือ จากแบรนด์ดังเรื่องคริสตัลของสวีเดน Orrefors หรูหรา อลังการเป็นที่สุด
พวงมาลัยหุ้มหนัง พร้อมโลโก้ R-Design ที่ด้านล่าง
หน้าปัทม์แบบ TFT ขนาด 12.3 นิ้ว สามารถปรับเปลี่ยนสีได้ตามโหมดการขับขี่
เบาะหนังสีดำสลับอคันทาล่า พร้อม โลโก้ R-Design สำหรับตัว R-Design
ตัวปกติเป็นเบาะหนังสีน้ำตาล
เบาะมีปีกด้านข้างที่กระชับนั่งสบายมาก และยังปรับฐานส่วนรองต้นขาเข้าออกได้อีกด้วย
เบาะหลังด้านข้างก็เป็นหนังสลับอคันทาล่า
จากรูป Leg room ของผู้โดยสารเบาะหลัง เหลือเฟือ นั่งสบาย แต่เบแต่เบาง ไม่สามารถปรับเอนได้นะครับ
กระจกมองหลังแบบไร้ขอบ และมีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ของระบบความปลอดภัยทั้งหมดที่กระจกหน้าตรงกลางด้านบน และถัดขึ้นมาเป็นจอเตือนต่างๆ และสวิตซ์เปิดปิดหลังคาพาโนรามิค
หลังคา Panoramic บานใหญ่ 2 บานเกือบเต็มพื้นที่หลังคา
ลำโพง Bowers&Wilkins พร้อมฝาครอบสแตนเลสสตีล พร้อมโลโก้ ที่แผงประตูหน้า สำหรับตัว R-Design
ลำโพง Bowers&Wilkins พร้อมฝาครอบสแตนเลสสตีล พร้อมโลโก้ ที่แผงประตูหลัง สำหรับตัว R-Design
ลำโพง Bowers&Wilkins พร้อมฝาครอบสแตนเลสสตีล พร้อมโลโก้ ที่ center เหนือแผงคอนโทรลหน้าสำหรับตัว R-Design
แป้นเหยียบ R-Design sport
- ที่เก็บของด้านท้าย
ที่เก็บสัมภาระด้านท้ายใหญ่จุใจ ขนาดยังไม่ได้พับเบาะแถวกลาง มีตาข่ายเก็บของด้านซ้าย และตะขอสำหรับยึดหลายจุด
อุปกรณ์สำหรับเสียบขาร์จไฟตามบ้านเพื่อขาร์จไฟเข้าระบบไฮบริด ระยะเวลาในการชาร์จแปรผันตรงข้ามตามกระแสไฟที่จ่าย เช่น ชาร์จไฟแรง 15 แอมป์ก็จะใช้เวลา 4 ชม. เป็นต้น
ส่วนที่สอง สมรรถณะและฟิลลิ่งเมื่อได้ทดลองขับ ตัวที่แอดมินได้ลองขับเป็นตัวท๊อป T8 R-design นะครับ
- ความแรงเป็นรถที่แรงมาก ขนาดขับขึ้นเนินยังเร่งได้ทันใจ สมกับแรงม้า 407 ตัว แรงบิด 640 นิวตันเมตรทีมี ส่วนนึงเร่งได้ทันใจเพราะมีซุปเปอร์ชาร์จช่วยในรอบต่ำ และยังมีแรงบิดจากมอเตอร์มาช่วยด้วย แรงดึงทีมีดึงหลังติดเบาะแน่นอน แต่เป็นแบบนุ่มนวลผู้ดี ไม่กระโชกโฮกฮากนะครับ สรุปว่าแรงเหลือเฟือสำหรับการใช้งานแน่อน อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ใน 5 วินาทีกว่า เป็นอัตราเร่งระดับรถสปอร์ตเลยนะครับ แต่ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 230 กม/ชม เหมาะสมกับรถ SUV ทรงสูงแบบนี้
- ช่วงล่างออกอาการแบบรถหนัก ขับมั่นใจแน่นๆนุ่มๆ ไม่โคลง เวลาสลาลอมโคลงน้อยกว่าที่คิด คงเป็นเพราะระบบ torque vectoring ที่ช่วยบาลานซ์อาการเอียงของตัวรถ รวมๆนั้นนุ่มนิ่มหนึบดีมาก
- เบรคเหยียบแล้วจะรู้สึกหยุ่นๆ เหมือนเหยียบเยลลี่ ตามสไตล์รถไฮบริด แต่เราสามารถปรับความแข็งได้ จากหน้าจอกลางนะครับ น่าจะปรับได้ใกล้เคียงตามนิสัยการเบรคที่เราต้องการ
- เบาะหนัง Nappa /Nuback ผสม หนังกลับแบบพิเศษ R-design นั่งสบาย นุ่มมาก ตัวใหญ่ ปีกข้างโอบรัดหลัง กำลังดี ฟินมากๆ แผงประตูวางแขนได้เข้ากับสรีระร่างกายมากๆ
- หัวเกียร์เป็น คริสตรัล handmade สวยงามตามท้องเรื่อง คิดว่าตอนกลางคืนน่าจะเรืองแสง และเปลี่ยนสีได้ แบบ Volvo V40
- เครื่องเสียง และ ลำโพงของ Bowers &Wilkins 1100W 15 ลำโพง เสียงใสมากก เหมาะสำหรับหูเทพ
- กุญแจหุ้มหนัง R-Design สวยงามหรูหรา
- หน้าจอกลางใหญ่มากก ใหญ่ยังกับหน้่าจอของ Tesla สามารถปรับค่าต่างๆ ได้เยอะมากก
- ระบบความปลอดภัยท่วมคัน กันแบบจำไม่ได้เลย คิดว่าเยอะสุดสำหรับรถที่ขายอยู่ใรไทยล่ะ ในงบ 3 ล้านกว่า สมกับ วลีที่ว่าทุกชีวิตปลอดภัยใน Volvo ผมว่าระบบมันแทบจะขับรถ เร่ง เบรค เลี้ยว ให้เราหมดแล้วนะ
- สรุปจากหน้าตา เครื่องยนต์ interior ออฟชั่น ทำให้ลืมคู่แข่ง แบบBMW X3 ,Benz GLC ไปเลย ยิ่ง Lexus NX ลืมไปได้เลย ถ้าต้องการซื้อ SUV ราคางบ สามล้านกว่า Volvo XC60 จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ แน่นอน ถ้ากลัว Hybrid ก็ยังมีตัว D4 เครื่องดีเซล ในราคา 3.09 ล้าน ที่ออฟชั่นก็เพียงพอแล้ว
- ความแรงเป็นรถที่แรงมาก ขนาดขับขึ้นเนินยังเร่งได้ทันใจ สมกับแรงม้า 407 ตัว แรงบิด 640 นิวตันเมตรทีมี ส่วนนึงเร่งได้ทันใจเพราะมีซุปเปอร์ชาร์จช่วยในรอบต่ำ และยังมีแรงบิดจากมอเตอร์มาช่วยด้วย แรงดึงทีมีดึงหลังติดเบาะแน่นอน แต่เป็นแบบนุ่มนวลผู้ดี ไม่กระโชกโฮกฮากนะครับ สรุปว่าแรงเหลือเฟือสำหรับการใช้งานแน่อน อัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ใน 5 วินาทีกว่า เป็นอัตราเร่งระดับรถสปอร์ตเลยนะครับ แต่ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ที่ 230 กม/ชม เหมาะสมกับรถ SUV ทรงสูงแบบนี้
- ช่วงล่างออกอาการแบบรถหนัก ขับมั่นใจแน่นๆนุ่มๆ ไม่โคลง เวลาสลาลอมโคลงน้อยกว่าที่คิด คงเป็นเพราะระบบ torque vectoring ที่ช่วยบาลานซ์อาการเอียงของตัวรถ รวมๆนั้นนุ่มนิ่มหนึบดีมาก
- เบรคเหยียบแล้วจะรู้สึกหยุ่นๆ เหมือนเหยียบเยลลี่ ตามสไตล์รถไฮบริด แต่เราสามารถปรับความแข็งได้ จากหน้าจอกลางนะครับ น่าจะปรับได้ใกล้เคียงตามนิสัยการเบรคที่เราต้องการ
- เบาะหนัง Nappa /Nuback ผสม หนังกลับแบบพิเศษ R-design นั่งสบาย นุ่มมาก ตัวใหญ่ ปีกข้างโอบรัดหลัง กำลังดี ฟินมากๆ แผงประตูวางแขนได้เข้ากับสรีระร่างกายมากๆ
- หัวเกียร์เป็น คริสตรัล handmade สวยงามตามท้องเรื่อง คิดว่าตอนกลางคืนน่าจะเรืองแสง และเปลี่ยนสีได้ แบบ Volvo V40
- เครื่องเสียง และ ลำโพงของ Bowers &Wilkins 1100W 15 ลำโพง เสียงใสมากก เหมาะสำหรับหูเทพ
- กุญแจหุ้มหนัง R-Design สวยงามหรูหรา
- หน้าจอกลางใหญ่มากก ใหญ่ยังกับหน้่าจอของ Tesla สามารถปรับค่าต่างๆ ได้เยอะมากก
- ระบบความปลอดภัยท่วมคัน กันแบบจำไม่ได้เลย คิดว่าเยอะสุดสำหรับรถที่ขายอยู่ใรไทยล่ะ ในงบ 3 ล้านกว่า สมกับ วลีที่ว่าทุกชีวิตปลอดภัยใน Volvo ผมว่าระบบมันแทบจะขับรถ เร่ง เบรค เลี้ยว ให้เราหมดแล้วนะ
- สรุปจากหน้าตา เครื่องยนต์ interior ออฟชั่น ทำให้ลืมคู่แข่ง แบบBMW X3 ,Benz GLC ไปเลย ยิ่ง Lexus NX ลืมไปได้เลย ถ้าต้องการซื้อ SUV ราคางบ สามล้านกว่า Volvo XC60 จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ แน่นอน ถ้ากลัว Hybrid ก็ยังมีตัว D4 เครื่องดีเซล ในราคา 3.09 ล้าน ที่ออฟชั่นก็เพียงพอแล้ว
ทาง Drive Master หวังว่าผู้อ่านจะเพลิดเพลินกับรูปภาพ และเนื้อหาที่ทางแอดมินได้เขียนนะครับ
ขอบคุณที่สละเวลาอ่าน รีวิวที่ยาวๆ แบบนี้นะครับ ขอบคุณครับ
สนใจติดตาม Drive Master Face Book Page ได้ทางลิ้ง :
ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ










ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น