Mazda 2 Minor change ปรับใหม่ใส่เบาะหนัง เข้าสู่ยุค Eco car เบาะหนัง เป็นยังไง มาดูกัน

                  จากการมาของผู้เล่นที่เป็นตัวสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น Honda City 1.0 turbo ที่โดดลงมาเล่นในกลุ่ม B-Segment Eco car หรือจะเป็น Nissan Almera ที่เป็น Eco-car ที่เพิ่มสมรรถนะไปแข่งกับ B-segment เครื่อง 1,500 ซีซี ได้ด้วย ทำให้ Mazda 2 ต้องมีการปรับหรือขยับตัวไม่งั้่นคงไม่โดดเด่นและขาดความสดใหม่ไป ทำให้ลูกค้าหันไปสนใจรุ่นอื่นๆ แทน
                  นับตั้งแต่ที่ Mazda 2 รุ่นนี้เริ่มขายมาก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จพอสมควร เมื่อเทียบกับตัวเก่านั้นเป็นเพราะตัวใหม่นีมีจุดเด่นในหลายส่วน
           จุดเด่น
           - รูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม ทันสมัย สำหรับแอดมิน MZ2 ถือเป็น Eco-car ที่สวยที่สุด โดยเฉพาะตัว Sedan
           - รูปลักษณ์ภายในสวยงามทันสมัย วัสดุดี งานเรียบร้อยดีกว่า Eco-car ทุกรุ่นเดิม
           - ช่วงล่างแน่นและหนึบเป็นอันดับต้นๆในกลุ่ม (จนกว่าจะได้ทดลอง City /Almera แบบชัดๆ)
           - ประหยัดน้ำมันเป็นอันดับต้นในกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นตัว 1.3 เบนซิล หรือ 1.5 ดีเซล
           แต่ก็ยังมีจุดด้อยในบางส่วนที่บางคนก็ตัดสินใจไม่ซื้อ
          จุดด้อย
          - พื้นที่ภายในคับแคบ อึดอัดที่สุดในกลุ่ม Eco-car โดยเฉพาะด้านหลัง เหมาะกับคนขับที่ตัวผอมและไม่สูงมากนัก รวมทั้งนั่งแค่ 2 คนเป็นหลัก
          - อัตราเร่งไม่ทันใจ ทั้งๆที่มีเครื่องถึง 1,300 ซีซี มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่ม Eco-car แต่กับมีอัตราเร่งที่แพ้เครื่อง 1,200 ซีซี บางรุ่น
          - ราคาที่สูงที่สุดในกลุ่มเมื่อเทียบเกรดต่อเกรด
          - ความน่าเชื่อถือในแบรนด์และการบริการของศูนย์ที่ยังเป็นรองเจ้าตลาด
          จากจุดเด่น-จุดด้อยที่กล่าวมานั้น MZ2 ก็สามารถกวาดยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ สังเกตุได้จากกลุ่มวัยรุ่นที่เพิ่งมีรถเป็นคันแรก ถ้าไม่ซื้อ Honda ก็จะมีตัวเลือกเป็น Mazda 2 มากกว่าจะเป็น Yaris Ativ นั้นก็เพราะหลักๆที่หน้าตาและฟังค์ชั่นโดยใจนั้นเอง
                  เมื่อ Mazda 2 ได้ขายมาสักพักนึงผ่านช่วง Big Minorchange ไปแล้วยอดขายก็นิ่งๆ คงตัว แต่จากการมาของ City/Almera ใหม่นั้นมาแรงมาก เพราะมีจุดเด่นเรื่องความแรงและประหยัด ในราคาที่ถูกกว่าอย่าง Almera  หรือใกล้เคียงกันแบบ City ดังนั้นทั้ง 2 รุ่นตัวใหม่มีความน่าสนใจกว่า จึงต้องมีการ Minorchange อีกรอบ แต่รอบนี้เปลี่ยนเยอะเหมือนกับเป็น Big Minorchange กันเลยทีเดียว
คันที่แอดมินถ่ายมาให้ชมสีเทา Machine Gray เป็นเกรด 1.3 S Leather  ราคา 648,000 บาท

ภายนอก                 

                การเปลี่ยนแปลงหลักๆเกิดที่ภายนอก จากรูปด้านบนจะทำให้เห็นการเปรียบเทียบได้ชัดๆที่ด้านหน้า ระหว่างคันใหม่สีเทากับคันซ้ายสีแดงที่เป็นรุ่นเดิม สิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้แก่
                - กันชนหน้ามีการปรับเปลี่ยนรูปทรงให้เป็นเทรนด์ใหม่ของ Mazda คือคล้าย MZ3 และ CX-5 ใหม่ มีการตัดไฟตัดหมอกออกทุกรุ่น ทุกเกรดตามที่แอดมินเคยบอกไว้ว่าไฟหน้าสมัยนี้สว่างและมีประสิทธิภาพดีมากเพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องมีไฟตัดหมอก การตัดออกทำให้สามารถออกแบบกันชนหน้าได้รูปทรงที่อิสระมากขึ้น รวมทั้งลดค่าการต้านทานอากาศบริเวณไฟตัดหมอกทำให้ cd ต่ำลง รถประหยัดน้ำมันมากขึ้น วิ่งได้เร็วมากขึ้น

                 - กระจังหน้าก็เปลี่ยนเป็นลายตะแกรงคล้าย MZ3 และ CX-5 เหมือนกัน ซึ่งแอดมินชอบกระจังแบบนี้ แต่เวลาล้างนี้ลำบากเลย โดยเฉพาะเวลาวิ่งกลางคืนฝ่าดงฝูงแมลง จะล้างโดยฉีดน้ำแรงดันสูงก็ไม่ได้เพราะจะทำให้ซี่ของหม้อน้ำล้มอีก งานเข้าอีก คงต้องใช้ฟองน้ำผสมน้ำยาล้างรถค่อยๆถูเอา

                 - ไฟหน้าก็เปลี่ยนเป็นแบบวงแหวนที่ทันสมัยมากขึ้น หางตาที่เป็นเส้นหายไป แต่ภาพรวมแอดมินชอบแบบเก่ามากกว่า

                 ด้านข้างไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เพราะเป็นส่วนของตัวถัง ถ้าเปลี่ยนแปลงแล้วมีค่าใช้จ่ายเยอะ

                  ล้อเป็นล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว กว้าง 5.5 นิ้วพ่นสีเทา รัดด้วยยาง Dunlop Enasave EC300+ ขนาด  185/68 R15

                    ด้านท้ายเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงที่กันชนหลังในส่วนของชายล่างที่เป็นพลาสติคสีดำและแผงไฟทับทิมสะท้อนแสง

                       ไฟท้ายรูปทรงเหมือนเดิม แต่เหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดภายในโคมเล็กน้อย ถ้าแอดมินจำไม่ผิด

ภายใน

             สำหรับคันที่ถ่ายจะเป็นเกรด 1.3 S Leather ซึ่งน่าจะเป็นเกรดหลักที่ขายดี เพราะมีการเพิ่มเบาะหนังเข้ามา หลังจากที่ก่อนหน้านี้เป็นเบาะผ้าแล้วลูกค้าได้มีการขอของแถมเป็นเบาะหนังซึ่งเบาะหนังของแถมที่ได้เป็นหนังเทียบพวก PVC ที่ไม่ทนแดดกรอบแตกง่าย หรือไม่ก็เป็นเบาะ PU ที่ดีขึ้นหน่อยแต่ส่วนใหญ่เป็นเบาะหนัง PVC เกรดเดียวกับเบาะรถสองแถว ที่ใช้ไปไม่ถึงปีก็แตก ขาด เป็นปัญหาต้องมาเคลม แล้วก็เคลมกับศูนย์ก็ไม่ได้เพราะเป็นเบาะของแถมของ Supplier ด้านนอก เผลอๆเซลล์ที่แถมลาออกไปแล้วเคลมไม่ได้อีก เซ็งๆกันไป ดังนั้นแอดมินแนะนำเลยนะครับ ถ้าจะหุ้มเบาะหนัง อย่าหุ้มของแถม ให้เพิ่มเงินเพื่ออัพเป็นหนังแท้ในส่วนที่สัมผัสหรือมาหุ้มร้านข้างนอก ซึ่งราคาถ้าเป็นหนังแท้เฉพาะส่วนที่สัมผัสน่าจะราคาเกือบหมื่นถึงหมื่นกว่า พวกที่ราคาหลักพันนั้นอย่าไปเอาครับหนังเกรดเดียวกับที่เซลล์แถมให้แหละครับ
             รายละเอียดภายในนั้นแอดมินจะไม่ลงลึกมากนะครับ เพราะสเปคหลักๆก็เหมือนเดิมที่หลายๆคนเคยเห็นหรือรู้มาแล้ว

              ภายในจะมีการตบแต่งหุ้มหนังสำหรับเกรด 1.3 S Leather, 1.3 SP, 1.5 XD และ 1.5 XDL ซึ่งจะเป็นหนังสีเทาสีเดียวเท่านั้น แอดมินว่าสีนี้สวยดีนะ ดูดี ดูแลง่าย ไม่ดำง่ายและเข้าได้กับรถทุกสี นอกจากนี้ตัวเบาะส่วนกลางจะเป็นหนังกลับแบบ Suede (เหมือน City RS ตัวใหม่) สีดำแซมในส่วนกลาง เพื่อให้รถดูหรูและดูสปอร์ตไปพร้อมๆกัน

                 ส่วนของคอนโซลหน้าด้านล่างที่มีการหุ้มหนังก็จะเปลี่ยนเป็นสีเทาเหมือนสีเบาะ มีการเดินตะเข็มด้ายสีฟ้าอ่อน

                   ในส่วนของเบาะหน้า เมื่อเทียบกับ City และ Almeraนั้น เบาะ City จะเป็นเบาะที่ใหญ่และนั่งสบายที่สุด ฐานรองเบาะยาว ส่วนของ MZ2 จะตัวเล็กกว่าประมาณนึง ส่วนรองนั่งก็สั้นกว่า เผลอๆเบาะเล็กกว่า Almera ด้วยซ้ำ แต่ส่วนของฟองน้ำซัพพอร์ตนั้นดีกว่า Almera ไม่ย้วยแบบ Almera แต่ก็ยังสู้ City ไม่ได้ สำหรับเบาะ

                   มาชมผิวเบาะและการตัดเย็บที่ดีมีคุณภาพเรียบร้อยกัน ความเนี๊ยบใกล้เคียง Honda City SV/RS  แต่ดีกว่า Toyota Yaris Ative / Nissan Almera เยอะ

 

                  แผงประตูเป็นอีกส่วนนึงของภายใน MZ2 ที่แอดมินมองว่าเรียบร้อย ดูดี ดูแพง ดูสปอร์ตเกินคลาสไปแล้วด้วยซ้ำ แอดมินมองว่าเทียบเคียง Audi TT เลยนะ (ในด้านการตบแต่ง ไม่รวมถึงคุณภาพนะครับ) การตบแต่งผิวด้านข้างด้วยหนังกลับ Suede นั้นทำให้รถดูมีคลาสมากๆ แบบเดียวกับ CX-3 และในส่วนที่ท้าวแขนยังเป็นหนังสังเคราะห์เหมือนเดิมก็ยังดูแลง่าย ไม่สกปรก แอดมินอยากให้มาสด้า Keep Design แบบนี้ไว้ แอดมินชอบมาก งานเนียนเรียบร้อยดีมากก

                    เบาะหลังก็ตบแต่งหุ้มหนังและหนังกลับ Suede แบบเบาะหน้า ส่วนความเล็ก เบาะสั้น คับแคบก็ยังคงเหมือนเดิมนะครับ

                  ***กล้องรอบคัน 360 องศา จะให้มาเฉพาะเกรด 1.3 SP ตัวท๊อป และ 1.5 XDL ตัวท๊อปเท่านั้น ตัว 1.3 S Leather ที่ถ่ายมาไม่มีนะครับ กล้องชัดเจนพอได้ แต่ไม่คมชัดเท่า MZ 3

                  แป้นเหยียบตบแต่งแบบสปอร์ตเป็นอุปกรณ์ตบแต่ง ซึ่งแอดมินมองว่าสวยงามใช้ได้เลย เป็นของที่ควรขอเป็นของแถม หรือไปติดเพิ่มเอง แต่ต้องเป็นของแท้นะครับ

                  ภาพรวมของ MZ2 ก็ประมาณนี้ ส่วนเครื่องยนต์ การขับขี่ ช่วงล่าง พวงมาลัย ก็ยังเหมือนเดิม แอดมินก็เลยไม่ขอกล่าวถึง ส่วนที่คนที่ชอบ MZ2 และตกลงใจที่จะซื้อ MZ2 เกรด 1.3 S Lether ก็เป็นอีกเกรดที่แอดมินนำเสนอ แต่ถ้าคนที่กำลังมองหา B-segment /Eco-car อยู่นั้นก็ยังมีคู่แข่งรุ่นอื่นๆที่น่าสนใจให้พิจารณาด้วยเช่นกันนะครับ

ปล.ทาง Drive Master ขอขอบคุณ โชว์รูม มาสด้า กรุงเทพออโตโมบิล บางนา สำหรับรถและสถานที่ ถ้าคุณผู้อ่านสนใจรถมาสด้า ติดต่อได้ทาง 02-325-0421 หรือแวะไปดูรถคันจริงได้ที่โชว์รูมนะครับ

                   
* สนใจติดตาม Drive Master Face Book Page ได้ทางลิ้ง : https://www.facebook.com/DriveMasterPage/?ref=bookmarks ** ทาง Drive Master ขอสงวนลิขสิทธ์ข้อมูลและเนื้อหา ห้ามนำเนื้อหาหรือส่วนใดส่วนหนึ่งส่วนใดในเนื้อหาไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจาก Drive Master *** ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ ฝากกด Like กด Share กด Follow ในเพจ Facebook ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ